ผู้ให้บริการ 3G ในลักษณะ Virtual Operator หรือ MVNO ในประเทศไทยที่จะให้บริการบนเครือข่ายของ TOT ที่จะเปิดตัวในวันที่ 3 ธันวาคมนี้มีใครบ้าง แล้วได้ข้อมูลมาตามนี้ครับ โดยผู้ให้บริการ MVNO บนเครือข่าย 3G ของ TOT นั้นจะมีทั้งหมดด้วยกันห้าราย ได้แก่ Loxley, Samart I-Mobile, 365 Communications, IEC International และ M Consultant Corporation ครับ โดยทั้งหมดนี้คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ โดยทั้งหมดนี้จะชูเรื่องราคาเป็นสิ่งสำคัญ โดยจากที่มานั้นได้พูดไว้ว่าราคาคาดว่าจะถูกกว่าเครือข่าย 2G ทั้งหมดกว่า 10 เท่า เนื่องจากความสามารถในการใช้แบนด์วิธที่สูงกว่า
ในขณะเดียวกัน ทาง TOT เองนั้นก็ไม่ได้เปิดเผยโควตาจำนวนหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้จัดสรรให้กับผู้ให้ บริการ MVNO ทั้งหลาย แต่ได้สงวน 20% ของจำนวนหมายเลขทั้งหมดให้กับบริการ 3G ที่บริษัทจะดำเนินการเองในอนาคต สำหรับเครือข่าย 3G ของ TOT นั้นสามารถให้บริการโทรศัพท์ 3G ได้กว่าห้าแสนหมายเลข โดยในส่วนของ Loxley นั้น ตามที่ได้เสนอแบบแผนธุรกิจมา บริษัทจะให้บริการ MVNO ภายใต้แบรนด์ Season สำหรับบริการเสียงและแบรนด์ I-Kool สำหรับบริการข้อมูล น่าสนใจเหมือนกันครับ สำหรับชาวกรุงเทพ ในอนาคตอันใกล้คงมีแบรนด์ 3G ให้เลือกกันมากมายเลยทีเดียว
วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ภาพถ่ายเบลอๆ กล้องเอ๋อ หรือเจ้าของ ??
ผู้ใช้บางคนที่อาจจะไม่เคยใช้กล้องถ่ายรูปมาก่อน โดยเฉพาะกล้องดิจิตอล พอคนขายบอกว่า กล้องดิจิตอลที่ซื้อไปใช้ง่ายมาก เปิดโหมดถ่ายภาพ เลือกมุมสวยที่ต้องการ แล้วก็กดชัตเตอร์ เพียงแค่นี้ก็ได้ภาพที่มีแสงสีสวยงาม คมชัดจับใจแล้ว... แต่เอาเข้าจริงๆ ปรากฏว่า ถ่ายออกมาแล้วเบลอทุกภาพ นี่เป็นประสบการณ์ตรงของผู้ใช้มือใหม่คนหนึ่งที่บ่นกระปอดกระแปดให้ฟัง... และเช่นเคย ปัญหา Human Error มักจะอยู่ในอันดับต้นๆ ของผู้ใช้มือใหม่...ซึ่งรวมถึงประสบการณ์ในการใช้กล้องครั้งแรกของนายเกาเหลาด้วยเช่นกัน :)
ผู้ใช้คนนี้เล่าให้ฟังว่า ภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลสุดหรูของเขา กี่รูปๆ ออกมาเบลอหมด ไม่เข้าใจว่า ทำไม ? พูดไม่พูดเปล่า หยิบกล้องมาอวด แล้วเปิดให้ดูภาพที่ถ่ายและเก็บไว้ในหน่วยความจำที่อยู่ในกล้อง ซึ่งมันก็เบลอทุกภาพจริงๆ ดูที่เลนส์หน้ากล้องก็ชัดปิ้งนิ๊งเสียกระไร วิวไฟน์เดอร์ก็สะอาด บนจอแอลซีดีก็ชัดนิ้ง เรียกว่า ทุกอย่างพร้อม แล้วมันผิดพลาดที่อะไรล่ะ ผู้ใช้คนนี้ยังเล่าให้ฟังว่า เคยเล่นกล้องฟิล์มแต่ไม่เคยเจอปัญหานี้เลย ว่าแล้วก็เลยให้เขาลองถ่ายรูปนายเกาเหลาดูหน่อย ปรากฏว่า เบลออีกแล้วครับทั่น.น.น...แต่นั่นทำให้นายเกาเหลาพบสาเหตุของภาพถ่ายที่เบลอทั้งหมด
ปกติกล้องถ่ายรูปดิจิตอล เมื่อกดปุ่มชัตเตอร์ มันจะมีการหน่วงเวลา (lag time) เล็กน้อยก่อนที่ภาพจะถูกบันทึกเข้าไป ซึ่งหากช่วงเวลาดังกล่าวเกิดมีการขยับกล้องขึ้นมา ปัญหาภาพเบลอ หรือภาพไหวย่อมเกิดขึ้นได้ และผู้ใช้คนนี้ คงติดนิสัยกล้องฟิล์มมา แบบว่า ลั่นชัตเตอร์ปุ๊บก็ขยับกล้องทันทีไม่ดูดำดูดีอะไรเลย นายเกาเหลาได้ยินเสียงชัตเตอร์หลังจากที่เขาขยับกล้องแล้วเสียด้วยซ้ำ อย่างนี้ภาพจะไม่เบลอได้อย่างไร นายเกาเหลาแนะนำให้เขากดปุ่ม Shutter ลงครึ่งหนึ่งก่อน เพื่อเลือกมุมภาพที่ต้องการ เมื่อพร้อมแล้ว ค่อยกดปุ่มอีกครึ่งหนึ่งให้สุด นอกจากนี้ การถ่ายภาพในที่แสงน้อยจะทำให้เกิดการหน่วงมากขึ้นอีกด้วย เพราะฉะนั้นควรเลือกถ่ายภาพในที่มีแสงสว่างมากสักหน่อย และถ้าหากถ่ายภาพวัตถุที่มีการเคลื่อนไหว ก็ควรเลือกโหมด Sports อีกอย่างหนึ่งคือ ต้องแน่ใจว่า ท่าทางในการจับกล้องมั่นคงดีแล้ว แต่ถ้าไม่ถนัดอาจหาขาตั้งกล้องมาช่วยก็ได้ และเพื่อความมั่นใจอาจจะใช้รีโมตชัตเตอร์ เพราะเวลาที่คุณกดชัตเตอร์ด้วยตนเองอาจทำให้กล้องสั่นได้ ถ้าเป็นคนมือหนักนะครับ หลังจากที่นายเกาเหลาลองถ่ายดูบ้าง (แบบใจเย็น) ก็ปรากฏว่า ภาพที่ออกมาชัดปิ๊งนิ้งเหลือเกิน...ตกลง...กล้อง หรือคนที่เออร์เรอร์กันแน่ครับเนี่ย...
ขอบคุณทิปจาก หนังสือคอมพิวเตอร์ทูเดย์
ผู้ใช้คนนี้เล่าให้ฟังว่า ภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลสุดหรูของเขา กี่รูปๆ ออกมาเบลอหมด ไม่เข้าใจว่า ทำไม ? พูดไม่พูดเปล่า หยิบกล้องมาอวด แล้วเปิดให้ดูภาพที่ถ่ายและเก็บไว้ในหน่วยความจำที่อยู่ในกล้อง ซึ่งมันก็เบลอทุกภาพจริงๆ ดูที่เลนส์หน้ากล้องก็ชัดปิ้งนิ๊งเสียกระไร วิวไฟน์เดอร์ก็สะอาด บนจอแอลซีดีก็ชัดนิ้ง เรียกว่า ทุกอย่างพร้อม แล้วมันผิดพลาดที่อะไรล่ะ ผู้ใช้คนนี้ยังเล่าให้ฟังว่า เคยเล่นกล้องฟิล์มแต่ไม่เคยเจอปัญหานี้เลย ว่าแล้วก็เลยให้เขาลองถ่ายรูปนายเกาเหลาดูหน่อย ปรากฏว่า เบลออีกแล้วครับทั่น.น.น...แต่นั่นทำให้นายเกาเหลาพบสาเหตุของภาพถ่ายที่เบลอทั้งหมด
ปกติกล้องถ่ายรูปดิจิตอล เมื่อกดปุ่มชัตเตอร์ มันจะมีการหน่วงเวลา (lag time) เล็กน้อยก่อนที่ภาพจะถูกบันทึกเข้าไป ซึ่งหากช่วงเวลาดังกล่าวเกิดมีการขยับกล้องขึ้นมา ปัญหาภาพเบลอ หรือภาพไหวย่อมเกิดขึ้นได้ และผู้ใช้คนนี้ คงติดนิสัยกล้องฟิล์มมา แบบว่า ลั่นชัตเตอร์ปุ๊บก็ขยับกล้องทันทีไม่ดูดำดูดีอะไรเลย นายเกาเหลาได้ยินเสียงชัตเตอร์หลังจากที่เขาขยับกล้องแล้วเสียด้วยซ้ำ อย่างนี้ภาพจะไม่เบลอได้อย่างไร นายเกาเหลาแนะนำให้เขากดปุ่ม Shutter ลงครึ่งหนึ่งก่อน เพื่อเลือกมุมภาพที่ต้องการ เมื่อพร้อมแล้ว ค่อยกดปุ่มอีกครึ่งหนึ่งให้สุด นอกจากนี้ การถ่ายภาพในที่แสงน้อยจะทำให้เกิดการหน่วงมากขึ้นอีกด้วย เพราะฉะนั้นควรเลือกถ่ายภาพในที่มีแสงสว่างมากสักหน่อย และถ้าหากถ่ายภาพวัตถุที่มีการเคลื่อนไหว ก็ควรเลือกโหมด Sports อีกอย่างหนึ่งคือ ต้องแน่ใจว่า ท่าทางในการจับกล้องมั่นคงดีแล้ว แต่ถ้าไม่ถนัดอาจหาขาตั้งกล้องมาช่วยก็ได้ และเพื่อความมั่นใจอาจจะใช้รีโมตชัตเตอร์ เพราะเวลาที่คุณกดชัตเตอร์ด้วยตนเองอาจทำให้กล้องสั่นได้ ถ้าเป็นคนมือหนักนะครับ หลังจากที่นายเกาเหลาลองถ่ายดูบ้าง (แบบใจเย็น) ก็ปรากฏว่า ภาพที่ออกมาชัดปิ๊งนิ้งเหลือเกิน...ตกลง...กล้อง หรือคนที่เออร์เรอร์กันแน่ครับเนี่ย...
ขอบคุณทิปจาก หนังสือคอมพิวเตอร์ทูเดย์
วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ปากกาดิจิตอลอัจฉริยะ Digital Pen Flash Recorder
บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวอุปกรณ์เสริมแรง สำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กโดยเฉพาะ ด้วยนวัตกรรมปากกาดิจิตอล Intellipen ปากกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด Digital Pen Flash Recorder ที่มาพร้อม USB Flash ที่ช่วยเก็บบันทึกข้อความเขียน ภาพสเก็ต ภาพวาด ได้ในทุกที่ เพียงแค่คลิบ USB Flash เข้าที่กระดาษธรรมดาทั่วไป แล้วเขียนด้วยปากกาดิจิตอล ข้อมูลจะถูกบันทึกเข้าไปทันที โดยไม่ต้องต่อเครื่องคอมฯ หรือจะนำข้อมูลที่เขียนหรือสะเก็ตทั้งหมดเข้าสู่คอมพ ิวเตอร์โดยผ่านช่อง USB ก็สะดวกใช้งานง่าย ตัว Flash drive ยังทำหน้าที่เก็บไฟล์ทั่วไป เช่น ไฟล์ MP3, Movie หรืออื่นๆ ข้อความที่ขีดเขียนยังสามารถแปลงเป็นตัวอักษรได้ (Text) หรือจัดเก็บแปลงเป็นไฟล์อื่น
สำหรับคุณสมบัติเด่นในการทำงานของ Digital Pen Flash Recorder นั้น สามารถนำไปขีดเขียน สเก็ตภาพและบันทึกได้ง่ายกับกระดาษทุกประเภท สะดวกพกพาติดตัวไปได้ทุกที่ สามารถเก็บบันทึกข้อความที่เขียน ได้ไม่น้อยกว่า 200 หน้า พร้อมกับการเก็บไฟล์ประเกทต่าง ๆ เช่น MP3, Videos อื่น ๆ เช่นเดียวกับ Flash Drive ทั่วไปได้ โดยนำข้อมูลที่เขียนบันทึกเข้าสู่คอมพิวเตอร์ผ่านช่อ ง USB แปลงข้อมูลเขียนเป็นตัวอักษรได้ (Text) เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อังกฤษ ฝรั่งเศส เป็นต้น และส่งผ่านข้อมูลที่เขียน หรือสเกต ทางอีเมล์ได้แบตเตอรี่กินไฟน้อย, ไส้ปากกาเปลี่ยนได้เหมือนปากกาทั่วไป
ปากกาดิจิตอลอัจฉริยะ Digital Pen Flash Recorder เหมาะสำหรับ นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ และบุคคลทั่วไป เหมาะสำหรับการจดเล็กเชอร์ในห้องเรียน งานประชุมสัมมนาต่าง ๆ ที่ต้องการ จดขีดเขียนรายงานต่างๆ เขียนบันทึก สเก็ตภาพ ได้ทุกที่ ทุกเวลา ที่ต้องการ สามารถร่างความคิด ไอเดีย ต่างๆ จากเหตุการณ์ที่พบเห็นได้ทันที และสามารถบันทึกภาพสเก็ตจากสถานที่ต่างๆ ได้ตลอดเวลา ปากกาดิจิตอลอัจฉริยะ Digital Pen Flash Recorder มีจำหน่ายแล้วในราคา 3,900 บาท ที่ไอทีซิตี้ทุกสาขา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เอสวีโอเอคอล์ลเซ็นเตอร์ 02-686-9000 หรือ www.svoa.co.th
ขอบคุณข่าวจาก ไทยเกมส์มิ่ง
สำหรับคุณสมบัติเด่นในการทำงานของ Digital Pen Flash Recorder นั้น สามารถนำไปขีดเขียน สเก็ตภาพและบันทึกได้ง่ายกับกระดาษทุกประเภท สะดวกพกพาติดตัวไปได้ทุกที่ สามารถเก็บบันทึกข้อความที่เขียน ได้ไม่น้อยกว่า 200 หน้า พร้อมกับการเก็บไฟล์ประเกทต่าง ๆ เช่น MP3, Videos อื่น ๆ เช่นเดียวกับ Flash Drive ทั่วไปได้ โดยนำข้อมูลที่เขียนบันทึกเข้าสู่คอมพิวเตอร์ผ่านช่อ ง USB แปลงข้อมูลเขียนเป็นตัวอักษรได้ (Text) เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อังกฤษ ฝรั่งเศส เป็นต้น และส่งผ่านข้อมูลที่เขียน หรือสเกต ทางอีเมล์ได้แบตเตอรี่กินไฟน้อย, ไส้ปากกาเปลี่ยนได้เหมือนปากกาทั่วไป
ปากกาดิจิตอลอัจฉริยะ Digital Pen Flash Recorder เหมาะสำหรับ นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ และบุคคลทั่วไป เหมาะสำหรับการจดเล็กเชอร์ในห้องเรียน งานประชุมสัมมนาต่าง ๆ ที่ต้องการ จดขีดเขียนรายงานต่างๆ เขียนบันทึก สเก็ตภาพ ได้ทุกที่ ทุกเวลา ที่ต้องการ สามารถร่างความคิด ไอเดีย ต่างๆ จากเหตุการณ์ที่พบเห็นได้ทันที และสามารถบันทึกภาพสเก็ตจากสถานที่ต่างๆ ได้ตลอดเวลา ปากกาดิจิตอลอัจฉริยะ Digital Pen Flash Recorder มีจำหน่ายแล้วในราคา 3,900 บาท ที่ไอทีซิตี้ทุกสาขา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เอสวีโอเอคอล์ลเซ็นเตอร์ 02-686-9000 หรือ www.svoa.co.th
ขอบคุณข่าวจาก ไทยเกมส์มิ่ง
วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
รวมปัญหาที่เกิดจาก Mouse & Keyboard
Mouse
ปัญหา : เมาส์ไม่ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหว
สาเหตุ : สายเมาส์เสียบไม่แน่นหนาในช่องเสียบที่ถูกต้อง ซึ่งอยู่ด้านหลังของคอมพิวเตอร์
การแก้ปัญหา : ตรวจสอบและเสียบสายเมาส์ให้แน่น
ปัญหา : เมาส์ไม่ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหว
สาเหตุ : ไม่ได้ติดตั้งไดรเวอร์ของเมาส์ หรือ ติดตั้งไดรเวอร์ที่ไม่ถูกต้อง
การแก้ปัญหา : ตรวจดูให้แน่ใจว่าได้ติดตั้งไดรเวอร์ของเมาส์ที่ถูกต้อง จากเดสก์ทอปของวินโดวส์ให้คลิกที่ปุ่ม Start จากนั้น ชี้ไปที่ Settings แล้วคลิกที่ Control Panel เมื่อเห็นหน้าต่าง Control Panel ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ไอคอน Mouse แล้วคลิกที่แท็บ General
ปัญหาเกี่ยวกับ Keyboard
โดยปกติแล้วคีย์บอร์ดจะเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ค่อยมีปัญหา เวลาใช้งานมากนัก แต่ถ้าใช้งานไปเป็นเวลานานก็อาจจะเกิดเป็นปัญหาขึ้นได้เหมือนกัน เช่น
ปุ่มคีย์บอร์ดแข็ง กดแป้นพิมพ์ไม่ค่อยได้ บางทีกดปุ่มใช้งานคีย์บอร์ดไม่ได้เลยทั้งที่ซื้อมาใหม่ปัญหาเหล่านี้ บางคนก็แก้ด้วยวิธีการซื้อมาเปลี่ยนใหม่เพราะราคาถูก ทั้ง ๆ ที่เป็นปัญหาที่แก้ไขได้ง่ายนิดเดียว ซึ่งมักเกิดกับคีย์บอร์ดมีดังนี้
-คีย์บอรด์แข็ง บางปุ่มกดไม่ลง
คีย์บอร์ดเป็นอุปกรณ์ที่เราต้องทำงานด้วยมากที่สุดพอ กับใช้เม้าส์ โดยเมื่อใช้ไปนาน ๆ เข้าก็จะมีฝุ่นผงคราบสกปรกเข้าไปเกาะติดอยู่
พอสะสมมากเข้าจะเป็นเหตุให้ปุ่มบนคีย์บอร์ดแข็ง กดไม่ค่อยลงเกิดปัญหาเวลาใช้งานคีย์บอร์ด เช่น พิมพ์งานเอกสารหรือโปรแกรมสเปรดชีตต่าง ๆ
สำหรับวิธีแก้ไขคือ ให้ใช้แปรงปัดฝุ่นและคราบสกปรกตามซอกปุ่มต่าง ๆ บนตัวคีย์บอร์ด แต่ถ้าปุ่มแข็งมากให้ใช้วิธีถอดปุ่มมาทำความสะอาด ดังนี้
1. ให้ใช้แปรงขนอ่อนขนาด 1 นิ้ว มาปัดฝุ่นตามซอกปุ่ม จนเห็นว่าสะอาดดีแล้ว ให้ลองกดปุ่มดุด้วยว่ากดได้งายขึ้นหรือไม่
2. หากยังไม่หาย มีปุ่มกดบางปุ่มยังแข็งอยู่กดปุ่มไม่ค่อยได้ ก็ให้ใช้ไขควงปากแบนค่อย ๆ งัดปุ่มออกมาทีละปุ่ม เพื่อให้มีพื้นที่ว่างมากขึ้นและใช้แปรงขนอ่อนปัดฝุ่นผงที่เกาะติดอยู่ตามซอกต่าง ๆ จนหมด หลังจากนั้นให้ใส่ปุ่มกลับเข้าที่เดิม ( แกะและทำความสะอาดทีละปุ่มจะได้ไม่งงเวลาที่ใส่กลับที่เดิม )
-เครื่องแจ้งว่า " KEYBOARD ERROR NO KEYBOARD PRESENT "
เมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์มาทำงาน บางครั้งจะพบกับข้อความหน้าจอไบออสแจ้งว่า " KEYBOARD ERROR NO KEYBOARD PRESENT "หมายถึง ตรวจไม่พบคีย์บอร์ดที่ติดตั้งอยู่ สาเหตุอาจเป็นเพราะคีย์บอร์ดและเม้าส์ มีลักษณะเป็นขั้วต่อแบบ PS/2 เหมือนกัน ดังนั้นจึงอาจเสียบผิดก็ได้
การแก้ไขให้ตรวจสอบการเสียบบอร์ดที่ท้ายเคสว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งขั้วต่อคีย์บอร์ดจะมีสีม่วง ส่วนขั้วต่อของเม้าส์จะมีสีเขียว ให้ถอดออกมาเสียบให้ถูกต้องหากยังมีข้อความดังกล่าวปรากฏอยู่อีกแสดงว่าคีย์บอร์ด ์เสีย ให้หาซื้อมาเปลี่ยนใหม่ในราคาตัวละ 150-300 บาท
-เครื่องแจ้งว่า " KEYBOARD CONTROLLER FAILURE "
อาการดังกล่าวอาจมีสาเหตุมาจากคีย์บอร์ดเสีย ให้ลองหาคีย์บอร์ดอื่นมาลองติดตั้งใช้งานแทน หากพบว่าคีย์บอร์ดเสียจริงให้หาซื้อมาเปลี่ยนใหม่ ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งมักเกิดจากชิปคอนโทรลคีย์บอร์ดที่อยู่บนเมนบอร์ดเสีย หรือลายวงจรควบคุมคีย์บอร์ดแตกหรือหลุดเนื่องจากการถอดเข้า-ออกขั้วต่อคีย์บอร์ดบ่อยเกินไปเมื่อคีย์บอร์ดใช้งานไม่ได้ ผู้ใช้หลายคนจำเป็นต้องให้ช่างหาซื้อเมนบอร์ดมาเปลี่ยนใหม่ เนื่องจากการซ่อมเมนบอร์ดค่อนข้างยากจะร้านรับซ่อมไม่ค่อยได้ แต่ถ้าเป็นร้านที่มีความชำนาญในการรับซ่อมเมนบอร์ดโด ยเฉพาะก็อาจจะซ่อมได้
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Mouse
-เลื่อนเมาส์ไม่ค่อยได้
ปัญหายอดฮิตของการใช้เมาส์ แต่เนื่องจากเมาส์มีราคาถูกเพียงตัวละ 80-200 บาทเท่านั้น ผู้ใช้ส่วนใหญ่จึงไม่ใส่ใจต่อปัญหานี้และคิดในใจว่าเป็นเพราะเมาส์ราคาถูกจึงเสียง่าย ความจริงแล้วเมาส์ไม่ได้เสียง่ายขนาดนั้นแต่เป็นเพราะเมาส์มีส่วนที่ต้องเคลื่อนไหวมาก โดยการเลื่อนลูกบอลยางไปกับพื้นหรือแผ่นรองเมาส์ จึงมักดูดเอาฝุ่นผงสกปรกต่าง ๆ เข้ากับติดอยู่กับแกนหมุน ทำให้แกนหมุนไม่ทำงานจึงไม่สามารถที่จะตรวจจับตำแหน่งที่เมาส์เคลื่อนที่ไปได้
สำหรับวิธีการแก้ไขก็คือ ให้ถอดเมาส์ออกมาทำความสะอาดเอาฝุ่นผงออกไปจากลูกบอล ยางและแกนหมุนเท่านั้นเมาส์ก็จะใช้ได้ต่อไป
โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. เปิดฝาครอบลูกบอลออก โดยหมุนบิดไปตามทิศทางของลูกศรที่แสดงบนฝาครอบ ใช้นำยาสเปรย์ฉีดทำความสะอาดลูกบอลและเช็ดให้แห้ง
2. ใช้นำยาสเปรย์ฉีดล้อหมุนแกนหมุนแนวตั้งและแกนหมุนแนว นอน และใช้ไม้สำลีเช็ดจนไม่มีฝุ่นผงติดอยู่ที่แกนหมุนทั้งสาม
3. เมื่อเห็นว่าแกนหมุนทั้งหมดสะอาดดีแล้ว ให้ใส่ลูกบอลพร้อมปิดฝาครอบกลับเข้าที่เดิม ซึ่งเมาส์ก็จะกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม
- คลิกเมาส์ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
ภายในเมาส์จะมีสวิทช์ชนิดหนึ่งมีขนาดเล็กซึ่งเรียกว่า ไมโครสวิทช์สำหรับรับคำสั่งจากการคลิกเมาส์ เมื่อใช้เมาส์ไปนาน ๆ ก็จะมีเศษฝุ่นเข้าไปเกาะติดหน้าสัมผัสของวงจรภายในไมโครสวิทช์ ทำให้เกิดอาการคลิกเมาส์ไม่ค่อยได้จึงมีวิธีการแก้ไข ดังนี้คือ
1. หงายท้องเมาส์ พร้อมกับใช้ไขควงคลายน็อตที่ยึดเมาส์ออกให้หมด
2. เปิดฝาครอบตัวเมาส์ออกมาแล้วจึงใช้นำยาสเปรย์ฉีดพ่นทำความสะอาดไมโครสวิทช์หลาย ๆ ครั้ง เพื่อให้นำยาสเปรย์ ได้แทรกเข้าไปละลายสิ่งสกปรกบนหน้าสัมผัสภายในสวิทช์ จนกว่าจะกดสวิทช์ได้อย่างสะดวก ซึ่งคงทำให้อาการดังกล่าวหายได้
ขอบคุณทิปจาก teabmongkon49
ปัญหา : เมาส์ไม่ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหว
สาเหตุ : สายเมาส์เสียบไม่แน่นหนาในช่องเสียบที่ถูกต้อง ซึ่งอยู่ด้านหลังของคอมพิวเตอร์
การแก้ปัญหา : ตรวจสอบและเสียบสายเมาส์ให้แน่น
ปัญหา : เมาส์ไม่ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหว
สาเหตุ : ไม่ได้ติดตั้งไดรเวอร์ของเมาส์ หรือ ติดตั้งไดรเวอร์ที่ไม่ถูกต้อง
การแก้ปัญหา : ตรวจดูให้แน่ใจว่าได้ติดตั้งไดรเวอร์ของเมาส์ที่ถูกต้อง จากเดสก์ทอปของวินโดวส์ให้คลิกที่ปุ่ม Start จากนั้น ชี้ไปที่ Settings แล้วคลิกที่ Control Panel เมื่อเห็นหน้าต่าง Control Panel ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ไอคอน Mouse แล้วคลิกที่แท็บ General
ปัญหาเกี่ยวกับ Keyboard
โดยปกติแล้วคีย์บอร์ดจะเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ค่อยมีปัญหา เวลาใช้งานมากนัก แต่ถ้าใช้งานไปเป็นเวลานานก็อาจจะเกิดเป็นปัญหาขึ้นได้เหมือนกัน เช่น
ปุ่มคีย์บอร์ดแข็ง กดแป้นพิมพ์ไม่ค่อยได้ บางทีกดปุ่มใช้งานคีย์บอร์ดไม่ได้เลยทั้งที่ซื้อมาใหม่ปัญหาเหล่านี้ บางคนก็แก้ด้วยวิธีการซื้อมาเปลี่ยนใหม่เพราะราคาถูก ทั้ง ๆ ที่เป็นปัญหาที่แก้ไขได้ง่ายนิดเดียว ซึ่งมักเกิดกับคีย์บอร์ดมีดังนี้
-คีย์บอรด์แข็ง บางปุ่มกดไม่ลง
คีย์บอร์ดเป็นอุปกรณ์ที่เราต้องทำงานด้วยมากที่สุดพอ กับใช้เม้าส์ โดยเมื่อใช้ไปนาน ๆ เข้าก็จะมีฝุ่นผงคราบสกปรกเข้าไปเกาะติดอยู่
พอสะสมมากเข้าจะเป็นเหตุให้ปุ่มบนคีย์บอร์ดแข็ง กดไม่ค่อยลงเกิดปัญหาเวลาใช้งานคีย์บอร์ด เช่น พิมพ์งานเอกสารหรือโปรแกรมสเปรดชีตต่าง ๆ
สำหรับวิธีแก้ไขคือ ให้ใช้แปรงปัดฝุ่นและคราบสกปรกตามซอกปุ่มต่าง ๆ บนตัวคีย์บอร์ด แต่ถ้าปุ่มแข็งมากให้ใช้วิธีถอดปุ่มมาทำความสะอาด ดังนี้
1. ให้ใช้แปรงขนอ่อนขนาด 1 นิ้ว มาปัดฝุ่นตามซอกปุ่ม จนเห็นว่าสะอาดดีแล้ว ให้ลองกดปุ่มดุด้วยว่ากดได้งายขึ้นหรือไม่
2. หากยังไม่หาย มีปุ่มกดบางปุ่มยังแข็งอยู่กดปุ่มไม่ค่อยได้ ก็ให้ใช้ไขควงปากแบนค่อย ๆ งัดปุ่มออกมาทีละปุ่ม เพื่อให้มีพื้นที่ว่างมากขึ้นและใช้แปรงขนอ่อนปัดฝุ่นผงที่เกาะติดอยู่ตามซอกต่าง ๆ จนหมด หลังจากนั้นให้ใส่ปุ่มกลับเข้าที่เดิม ( แกะและทำความสะอาดทีละปุ่มจะได้ไม่งงเวลาที่ใส่กลับที่เดิม )
-เครื่องแจ้งว่า " KEYBOARD ERROR NO KEYBOARD PRESENT "
เมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์มาทำงาน บางครั้งจะพบกับข้อความหน้าจอไบออสแจ้งว่า " KEYBOARD ERROR NO KEYBOARD PRESENT "หมายถึง ตรวจไม่พบคีย์บอร์ดที่ติดตั้งอยู่ สาเหตุอาจเป็นเพราะคีย์บอร์ดและเม้าส์ มีลักษณะเป็นขั้วต่อแบบ PS/2 เหมือนกัน ดังนั้นจึงอาจเสียบผิดก็ได้
การแก้ไขให้ตรวจสอบการเสียบบอร์ดที่ท้ายเคสว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งขั้วต่อคีย์บอร์ดจะมีสีม่วง ส่วนขั้วต่อของเม้าส์จะมีสีเขียว ให้ถอดออกมาเสียบให้ถูกต้องหากยังมีข้อความดังกล่าวปรากฏอยู่อีกแสดงว่าคีย์บอร์ด ์เสีย ให้หาซื้อมาเปลี่ยนใหม่ในราคาตัวละ 150-300 บาท
-เครื่องแจ้งว่า " KEYBOARD CONTROLLER FAILURE "
อาการดังกล่าวอาจมีสาเหตุมาจากคีย์บอร์ดเสีย ให้ลองหาคีย์บอร์ดอื่นมาลองติดตั้งใช้งานแทน หากพบว่าคีย์บอร์ดเสียจริงให้หาซื้อมาเปลี่ยนใหม่ ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งมักเกิดจากชิปคอนโทรลคีย์บอร์ดที่อยู่บนเมนบอร์ดเสีย หรือลายวงจรควบคุมคีย์บอร์ดแตกหรือหลุดเนื่องจากการถอดเข้า-ออกขั้วต่อคีย์บอร์ดบ่อยเกินไปเมื่อคีย์บอร์ดใช้งานไม่ได้ ผู้ใช้หลายคนจำเป็นต้องให้ช่างหาซื้อเมนบอร์ดมาเปลี่ยนใหม่ เนื่องจากการซ่อมเมนบอร์ดค่อนข้างยากจะร้านรับซ่อมไม่ค่อยได้ แต่ถ้าเป็นร้านที่มีความชำนาญในการรับซ่อมเมนบอร์ดโด ยเฉพาะก็อาจจะซ่อมได้
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Mouse
-เลื่อนเมาส์ไม่ค่อยได้
ปัญหายอดฮิตของการใช้เมาส์ แต่เนื่องจากเมาส์มีราคาถูกเพียงตัวละ 80-200 บาทเท่านั้น ผู้ใช้ส่วนใหญ่จึงไม่ใส่ใจต่อปัญหานี้และคิดในใจว่าเป็นเพราะเมาส์ราคาถูกจึงเสียง่าย ความจริงแล้วเมาส์ไม่ได้เสียง่ายขนาดนั้นแต่เป็นเพราะเมาส์มีส่วนที่ต้องเคลื่อนไหวมาก โดยการเลื่อนลูกบอลยางไปกับพื้นหรือแผ่นรองเมาส์ จึงมักดูดเอาฝุ่นผงสกปรกต่าง ๆ เข้ากับติดอยู่กับแกนหมุน ทำให้แกนหมุนไม่ทำงานจึงไม่สามารถที่จะตรวจจับตำแหน่งที่เมาส์เคลื่อนที่ไปได้
สำหรับวิธีการแก้ไขก็คือ ให้ถอดเมาส์ออกมาทำความสะอาดเอาฝุ่นผงออกไปจากลูกบอล ยางและแกนหมุนเท่านั้นเมาส์ก็จะใช้ได้ต่อไป
โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. เปิดฝาครอบลูกบอลออก โดยหมุนบิดไปตามทิศทางของลูกศรที่แสดงบนฝาครอบ ใช้นำยาสเปรย์ฉีดทำความสะอาดลูกบอลและเช็ดให้แห้ง
2. ใช้นำยาสเปรย์ฉีดล้อหมุนแกนหมุนแนวตั้งและแกนหมุนแนว นอน และใช้ไม้สำลีเช็ดจนไม่มีฝุ่นผงติดอยู่ที่แกนหมุนทั้งสาม
3. เมื่อเห็นว่าแกนหมุนทั้งหมดสะอาดดีแล้ว ให้ใส่ลูกบอลพร้อมปิดฝาครอบกลับเข้าที่เดิม ซึ่งเมาส์ก็จะกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม
- คลิกเมาส์ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
ภายในเมาส์จะมีสวิทช์ชนิดหนึ่งมีขนาดเล็กซึ่งเรียกว่า ไมโครสวิทช์สำหรับรับคำสั่งจากการคลิกเมาส์ เมื่อใช้เมาส์ไปนาน ๆ ก็จะมีเศษฝุ่นเข้าไปเกาะติดหน้าสัมผัสของวงจรภายในไมโครสวิทช์ ทำให้เกิดอาการคลิกเมาส์ไม่ค่อยได้จึงมีวิธีการแก้ไข ดังนี้คือ
1. หงายท้องเมาส์ พร้อมกับใช้ไขควงคลายน็อตที่ยึดเมาส์ออกให้หมด
2. เปิดฝาครอบตัวเมาส์ออกมาแล้วจึงใช้นำยาสเปรย์ฉีดพ่นทำความสะอาดไมโครสวิทช์หลาย ๆ ครั้ง เพื่อให้นำยาสเปรย์ ได้แทรกเข้าไปละลายสิ่งสกปรกบนหน้าสัมผัสภายในสวิทช์ จนกว่าจะกดสวิทช์ได้อย่างสะดวก ซึ่งคงทำให้อาการดังกล่าวหายได้
ขอบคุณทิปจาก teabmongkon49
วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
เริ่มต้นรู้จักกับ แอนดรอยด์ กันเถอะ ก่อนจะตกเทรน
สำหรับชั่วโมงนี้ หากใครได้ติดตามข่าวทั้งจากเว็บไซด์ในไทยและต่างประเทศจะสังเกตได้คล้ายๆผมว่า ระบบปฎิบัติการ แอนดรอยด์นั้น มันมาแรงจริงๆ มันมีพันธมิตรร่วมอุดมการณ์กันหลายบริษัท ทั้งเล็กและใหญ่ปนๆกันไป หากดูค่ายใหญ่ก็อย่างเช่น Motorola , HTC , Acer , Samsung , LG , Sony Ericsson , Asus ในตอนนี้มันคงจะยากที่จะปฎิเสธที่จะไม่รู้จักกับ แอนดรอยด์แล้วหละครับ เพราะแทบทุกวันจะมีเครื่องในรูปแบบ แอนดรอยด์ ออกสู่ตลาดเยอะมากในช่วงนี้ เยอะกว่าเครื่องที่ใช้ Windows Mobile เสียอีก ดังนั้นในช่วงนี้ ผมยังมองว่ามันเป็นช่วงเริ่มของระบบปฎิบัติการใหม่นี้ ซึ่งในตอนนี้เวอร์ชั่นของตัวระบบปฎิบัติการที่ใหม่ที่สุดคือ 1.6 ( 9/11/2009 ) และจะมีเวอร์ชั่น 2.0 ตามออกมาอีกไม่นานนี้
แอนดรอยด์ไม่ใช่ระบบปฎิบัติการบนมือถือที่ดีที่สุด หรือฉลาดที่สุด แต่อาจจะเป็นระบบปฎิบัติการที่อาจจะทำให้หลายคนชอบใช้มากเป็นที่สุดก็ได้ ซึ่งมีเหตุผลดีๆหลายอย่างที่ผมเองได้พบเจอเมื่อได้คลุกคลีกับมัน
1.มีโปรแกรมเจ๋งๆ ให้ Download มากกว่า 10,000 โปรแกรม และเกมมันๆอีกมากกว่า 2,500 เกม ใน Google Market place ซึ่งมีโปรแกรมมาใหม่ให้เลือกใช้ได้ทุกวัน
2.สามารถใช้งานโปรแกรม และลงโปรแกรมได้จากตัวเครื่อง โดยที่ไม่ต้องพึ่งพา Computer หรือ Notebook อีกต่อไป
3.สามารถปรับเปลี่ยน Widget บนหน้าจอได้ตามสไตล์ และรูปแบบการใช้งานของตัวเราเอง พร้อมบันทึกรูปแบบที่ปรับแต่งแล้ว ไว้ใช้ในโอกาสต่างๆกันได้อีกด้วย ไม่ต้องกังวลกับเพื่อนที่จะมาปรับเปลี่ยนหน้าจอของเราอีกแล้ว
4.รองรับ Gmail, Google Talk , Google Map อย่างเต็มรูปแบบ และข้อมูลของเราจะถูกเก็บไว้ที่ GMail โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลที่สำคัญของเราจะหายไป
5.ใช้งาน Facebook, Twitter ได้อย่างง่ายดาย และสามารถอัพโหลดรูปภาพโชว์เพื่อนๆได้ทันที
6.ตอบโจทย์การใช้งาน Website ได้อย่างเต็มรูปแบบด้วย Java และ Flash player
7.สามารถ “ค้นหา” และ “เข้าถึง” ฐานข้อมูลของ Google ได้ตลอดเวลา และง่ายยิ่งขึ้นด้วย ปุ่ม Search บนเครื่อง และ Google search widget
8.ได้รับการพัฒนาโดย Google ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการ IT และ Internet ทำให้มั่นใจได้ว่า Android จะได้รับการดูแลอย่างดี และมีการพัฒนาให้เป็นระบบปฏิบัติการที่มีสเถียรภาพในการทำงาน และตอบสนองผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็วที่สุด
9.Android เป็น Open source ทำให้มีทางเลือกมาก และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้จะได้รับประโยชน์จากโปรแกรมที่มีการพัฒนาตลอดเวลา
10.ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เพียงได้ทดลองสัมผัส ก็สามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว
11. การทำงานของเครื่องจัดว่าค่อนข้างเสถียร และเร็ว หากเกิดข้อผิดพลาดไม่จำเป็นต้อง Reset ใหม่ทั้งเครื่อง สามารถเลือกปิดโปรแกรมในแต่ละตัวได้
12.เป็นระบบปฎิบัติการที่ไม่ซับซ้อน ใช้งานง่ายสุดๆ เหมือนกับการใช้งานโทรศัพท์ธรรมดาทั่วๆไป
สำหรับข้อเสียของ แอนดรอยด์เองก็๋มีเช่นกันครับ ไม่ใช่มีแต่ด้านดีเพียงอย่างเดียว
1.การ Sync ข้อมูลสามารถทำได้เฉพาะ Contact กับ Calendar เท่านั้น
2.หากไม่ใช่เครื่องยี่ห้อ HTC อาจจะไม่มีโปรแกรมตัวกลางช่วยในการ Sync เพราะหากเป็น HTC จะใช้ HTC Sync แต่หากเป็นยี่ห้อดังๆอื่นๆก็คงน่าจะมีของเค้าเอง แต่หากเป็นเครื่องมาจากจีนพวกโนเนม สงสัยจะลำบาก
3.การทำงานของเครื่องจะต้องเชื่อมต่อ GPRS ไว้ตลอดเวลา แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตมากที่จะต้องกังวลเพราะมันมีโปรแกรมปิดการทำงานได้แล้วครับ เหมือนเปิดปิด WiFi
4.การใช้งานพวกไฟล์เอกสาร MS Office นั้น สามารถเปิดดูได้ทั้ง Word และ Excel แต่ยังไม่สามารถแก้ไขอะไรในเอกสารได้ ( หมายถึงโปรแกรมที่แถมมาพร้อมกับเครื่อง ไม่นับพวกโปรแกรมเสริม ซึ่งต่างกับ Windows Mobile ที่โปรแกรมมาตราฐานสามารถทำงานได้ดีกว่า)
5.การแก้ไขระบบ หรือการอัพเดทตัวระบบโดยส่วนใหญ่จะมีการควบคุมจากทาง Google
6.เครื่องที่ใช้ระบบปฎิบัติการ แอนดรอยด์ แต่ละยี่ห้อ จะมี service ของ Google ที่แถมมาให้แตกต่างกันไป บางเครื่องอาจจะไม่มี Google map / Gmail หรือ Market
7.การทำงานของแอนดรอยด์เน้นการใช้นิ้วเป็นหลัก เพราะฉะนั้นเมนูต่างๆออกแบบมาสำหรับการใช้นิ้ว รวมถึงหน้าจอเครื่องส่วนใหญ่เป็นแบบ Capacitive Touchscreen ใช้ Stylus จิ้มไม่ได้ นอกจากเครื่อง HTC Tattoo เพียงรุ่นเดียวที่ทำได้
8.โปรแกรมการใช้งาน GPS แบบ Turn by turn ยังไม่มีเป็นเรื่องเป็นราว ( หมายถึงที่แถมมาพร้อมกับเครื่อง )
การติดตั้งโปรแกรมของ แอนดรอยด์
รูปแบบการติดตั้งโปรแกรม
1.ติดตั้งจากบริการ Market บนเครื่องเอง สำหรับตัว Market จะเป็นบริการคล้ายๆ App Store ของเครื่อง iPhone คือจะต้องเข้าผ่านจากเครื่องโดยตรงอาศัย GPRS หรือ WiFi ในการเชื่อมต่อเพื่อเข้าไปเลือกดูรายชื่อ โปรแกรมต่างๆบน Market แล้วจัดการ Install ลงในเครื่องทันที แต่ว่าบริการตัว Market นั้นจะไม่มีในเครื่องทุกเครื่องที่เป็น แอนดรอยด์นะครับ จะมีเฉพาะบางยี่ห้อที่เซ็นข้อตกลงกับทาง Google
2.แบบ Online คือเข้าไปที่เว็บที่ให้บริการ แล้ว Download แบบตรงๆติดตั้งลงในเครื่องทันที คล้ายๆกับการติดตั้ง cab ไฟล์บน Windows Mobile หรือติดตั้งใน Cydia ของ iPhone
3.ติดตั้งแบบ Manual คือ กรณีที่เราได้ไฟล์ นามสกุล .apk มาจากเพื่อน หรือคนอื่น copy ใส่ card มาให้ เรา การที่จะนำไฟล์เหล่านั้นมาติดตั้งได้ ต้องผ่านโปรแกรมหนึ่งตัวชื่อว่า app installer เพื่อช่วยในการติดตั้ง
โปรแกรมของ android ปกติ เป็นโปรแกรมประเภท stand alone คือไม่มีการแตกไฟล์หลังการติดตั้งแบบ Windows เพราะฉะนั้นการ remove หรือ uninstall ออกก็ลบทิ้งได้ง่ายมาก ไม่ทิ้งขยะให้มั่วเหมือนใน Windows Mobile แต่อย่างที่บอกไปว่า สมมุติว่าเพื่อนเรา เอา memory card ที่มีโปรแกรมของ แอนดรอยด์ มาให้เรา เราจะเอา card มาใส่แล้วทำงานเลยทันทีไม่ได้ ต้องผ่านโปรแกรมที่ชื่อว่า app installer ก่อน ช่วยในการติดตั้งครับ
การใช้งาน Multimedia
ในเครื่องโดยปกติแล้วจะมีโปรแกรมเล่นไฟล์ VDO ไฟล์ภาพ และไฟล์ เพลงให้มาเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่มีโปรแกรมพวก File manager ให้มา ต้องไปหาลงเองต่างหาก สำหรับการจะเล่นไฟล์พวกมัลติมิเดียต่างๆนั้น จะต้องมี memory card ในเครื่อง และการโอนไฟล์สามารถทำได้ง่ายๆ คล้ายๆกับการเสียบ Flash Drive เข้า PC เพื่อโดยไฟล์ลงใน Card ในเครื่อง แอนดรอยด์ก็เช่นกันเมื่อเสียบสาย USB เข้ากับ PC ให้เลือกเป็น Mass Storage แล้วเราจะเห็น Drive ใหม่บนเครื่อง PC หลังจากนั้นก็โยนไฟล์พวกมัลิมิเดียลงไปใน Card ได้ทันที
สำหรับไฟล์ที่รองรับ
Audio formats supported: AAC, AAC+, AMR-NB, MP3, WMA, WAV, AAC-LC, MIDI, OGG. Video formats supported: MP4, 3GP
การเชื่อมต่อและเล่น Net
เครื่องในรูปแบบ แอนดรอยด์แทบทุกตัวจะมีโปรแกรม Browser ให้มาอยุ่แล้วครับ แต่ใน market เองจะมีโปรแกรม Browser อื่นๆที่มีประสิทธิภาพมากกว่าที่ให้มาในตัวเครื่องซึ่งส่วนใหญ่สามารถโหลดใช้งานได้ฟรี โปรแกรม Browser เครื่องเองสามารถ Run ทำงานหน้าต่างเพื่อดูเว็บต่างๆได้พร้อมกัน 8 หน้าจอ สามารถเลือกสลับขึ้นมาโชว์ได้ แบบเวลาเล่นไพ่ เลือกสลับไปมาได้ครับ โดยการเชื่อมต่อจะต้องอาศัย GPRS หรือ WiFi ในการเชื่อมต่อ ซึ่งโดนปกติแล้วเราจะสามารถ ออนไลน์ได้ตลอดเวลาทันทีเพราะเครื่องมันเป็นแบบระบบ Always on สำหรับการเชื่อมต่อ GPRS ค้างเอาไว้
การรับส่ง Email ก็เช่นกัน โดยปกติจะให้ใช้ service ของ Gmail เป็นหลัก โดยในครั้งแรกจะต้องมีการ set up เล็กน้อย หากใช้บริการของทาง Gmail แต่หากเป็นการใช้งาน POP3 ทั่วไปก็สามารถ setup เหมือนปกติในเครื่องอื่นๆ พิเศษหน่อยตรงที่ใครใช้ Gmail มันจะมี icon บนหน้าจอแยกออกมาเลยครับ ในการ sync ครั้งแรกมันจะดึงข้อมูลจาก account บน Gmail เรามาให้เอง ทั้ง Contact และ Calendar ต่างๆ ซึ่งโดยความเห็นผมเอง บอกได้เลยว่า งง มาก มั่วมากตรงจุดนี้เราสามารถเลือกตั้งค่าใหม่เองได้ครับ สิ่งที่ผมชอบก็คือการใช้งาน Gmail บนเครื่อง แอนดรอยด์เป็นการใช้งานแบบ Real time ตลอดเวลา คือเวลามี Mail ใหม่เข้ามาปุ๊บ มันจะทำการแจ้งเตือนทันที คล้ายๆ Push Mail แต่ไม่ถึงกับเร็วเท่า และเราสามารถเลือกบริหารจัดการ Email บนเครื่อง แอนดรอยด์ได้เหมือนใช้งานบน PC หากลบ mail ทิ้งไป ข้อมูล Email นั้นๆใน Account ของเราก็ถูกลบไปทันที
การใช้งานเป็น Wireless Modem ในเครื่องรุ่นใหม่อย่าง Hero หรือ Tattoo จะมีการใช้งานในส่วนนี้รองรับมาให้เรียบร้อยแล้วครับ
การใช้งาน GPS
น่าเสียดายครับ ที่ แอนดรอยด์ในตอนนี้ตัว hardware มี GPS รองรับใช้งานอยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการใช้งานกับโปรแกรมที่รองรับเป็นหลัก เช่นพวก Digital Compass หรือ โปรแกรมสนุกๆต่างๆอย่าง Air Paint แต่ทว่าโปรแกรมการนำทางแบบ Turn by turn บนเครื่อง แอนดรอยด์แบบจริงๆจังๆสำหรับเมืองไทยยังไม่มีครับ ( หมายถึงที่แถมมาพร้อมกับเครื่อง ) ในอนาคตในแอนดรอย์เวอร์ชั่น 2.0 จะมี Google map ตัวใหม่ออกมารองรับการทำงานแบบ Turn by turn ด้วยแต่ว่าในตอนนี้ทาง Google เองยังไม่มีนโยบายรองรับประเทศไทยสำหรับ service ตัวใหม่นี้
ทิศทางของแอนดรอยด์ในตลาด
แม้ว่า แอนดรอยด์จะเป็นระบบแบบ open source ก็ตามแต่ก็ใช้ว่ามันจะเป็นเครื่องราคาถูกแบบเครื่องโนเนม มันมีข้อตกลงและข้อจำกัดซ่อนเร้นอีกเยอะครับทำให้เครื่องทุกวันนี้มันราคาไม่ได้ถูกไปเหมือนอย่างที่เราคิดในตอนแรก เพราะในแง่คนขายเอง เค้าเองจะต้องต่อสู่กับข้อตกลงและข้อบังคับสารพัดจากทาง Google ซึ่งมีข้อบังคับที่น่าแปลกใจหลายๆส่วน เช่นง่ายๆการ อัพเกรดต่างๆแม้แต่การจะบรรจุอะไรลงไปใน ROM จะต้องมีการขออนุญาตกับทาง Google ซึ่งระบบจะมีการติดต่อกับทาง Google ตลอดแม้แต่การอัพ เฟริมแวร์ หากจะอัพก่อนวันที่เค้ากำหนดเครื่องก็จะไม่สามารถอัพผ่านไปได้
จุดขายของเครื่องแอนดรอยด์ในตลาดเวลานี้ นอกจากเรื่องของ Spec Hardware แล้ว เรื่องที่ใช้เป็นกลยุทธ์ในการทำตลาดก็คือเรื่องของ UI เพราะเครื่องแต่ละยี่ห้อจะมี UI ที่พํฒนากันเอง ใครจะเจ๋งกว่ากันก็วัดกันตรงนี้แหละครับ และเรื่องของโปรแกรมพวก PC Conduit เป็นโปรแกรมที่ใช้เป็นตัวกลางในการ Sync กับ PC ซึ่งโดยปกติแล้ว เครื่องในระบบอื่นๆ เช่น Windows mobile จะมี Active sync หรือ iTune ของ iPhone ซึ่งจะมีมาให้จากโรงงาน แต่สำหรับแอนดรอยด์ไม่มีครับ ทำให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องต้องพัฒนากันเอง เช่น HTC จะมี HTC Sync
แอนดรอยด์ตอนนี้เนื้อหอมสุดๆ เพราะสังเกตจากข่าวรายวันในต่างประเทศจะมีแต่ข่าวเครื่องแอนดรอยด์เสียเป็นส่วนใหญ่ ผมเองไม่ขอบอกว่ามันเป็นระบบปฎิบัติการที่ดีที่สุดในเวลานี้ก็แล้วกัน แต่มันเป็นระบบที่หากหลายๆคนได้มีโอกาสสัมผัสอาจจะชอบมันก็ได้ ตัวผมเองแรกๆเมื่อสัมผัสในเวอร์ชั่นแรกๆรู้สึกเบื่อกับข้อจำกัดของมัน ที่ไม่สามารถปรับแต่งได้มาก แต่พอได้ลองเครื่องที่มี UI ที่ดีขึ้นทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นมาก เพราะ Default UI ของระบบ แอนดรอยด์เอง แม้ว่าจะใช้ง่าย เข้าใจง่าย แต่ใช้แล้วไม่ถูกใจ ไม่มันส์เอาเสียเลย
ขอบคุณข่าวจาก www.th.msn.com
แอนดรอยด์ไม่ใช่ระบบปฎิบัติการบนมือถือที่ดีที่สุด หรือฉลาดที่สุด แต่อาจจะเป็นระบบปฎิบัติการที่อาจจะทำให้หลายคนชอบใช้มากเป็นที่สุดก็ได้ ซึ่งมีเหตุผลดีๆหลายอย่างที่ผมเองได้พบเจอเมื่อได้คลุกคลีกับมัน
1.มีโปรแกรมเจ๋งๆ ให้ Download มากกว่า 10,000 โปรแกรม และเกมมันๆอีกมากกว่า 2,500 เกม ใน Google Market place ซึ่งมีโปรแกรมมาใหม่ให้เลือกใช้ได้ทุกวัน
2.สามารถใช้งานโปรแกรม และลงโปรแกรมได้จากตัวเครื่อง โดยที่ไม่ต้องพึ่งพา Computer หรือ Notebook อีกต่อไป
3.สามารถปรับเปลี่ยน Widget บนหน้าจอได้ตามสไตล์ และรูปแบบการใช้งานของตัวเราเอง พร้อมบันทึกรูปแบบที่ปรับแต่งแล้ว ไว้ใช้ในโอกาสต่างๆกันได้อีกด้วย ไม่ต้องกังวลกับเพื่อนที่จะมาปรับเปลี่ยนหน้าจอของเราอีกแล้ว
4.รองรับ Gmail, Google Talk , Google Map อย่างเต็มรูปแบบ และข้อมูลของเราจะถูกเก็บไว้ที่ GMail โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลที่สำคัญของเราจะหายไป
5.ใช้งาน Facebook, Twitter ได้อย่างง่ายดาย และสามารถอัพโหลดรูปภาพโชว์เพื่อนๆได้ทันที
6.ตอบโจทย์การใช้งาน Website ได้อย่างเต็มรูปแบบด้วย Java และ Flash player
7.สามารถ “ค้นหา” และ “เข้าถึง” ฐานข้อมูลของ Google ได้ตลอดเวลา และง่ายยิ่งขึ้นด้วย ปุ่ม Search บนเครื่อง และ Google search widget
8.ได้รับการพัฒนาโดย Google ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการ IT และ Internet ทำให้มั่นใจได้ว่า Android จะได้รับการดูแลอย่างดี และมีการพัฒนาให้เป็นระบบปฏิบัติการที่มีสเถียรภาพในการทำงาน และตอบสนองผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็วที่สุด
9.Android เป็น Open source ทำให้มีทางเลือกมาก และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้จะได้รับประโยชน์จากโปรแกรมที่มีการพัฒนาตลอดเวลา
10.ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เพียงได้ทดลองสัมผัส ก็สามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว
11. การทำงานของเครื่องจัดว่าค่อนข้างเสถียร และเร็ว หากเกิดข้อผิดพลาดไม่จำเป็นต้อง Reset ใหม่ทั้งเครื่อง สามารถเลือกปิดโปรแกรมในแต่ละตัวได้
12.เป็นระบบปฎิบัติการที่ไม่ซับซ้อน ใช้งานง่ายสุดๆ เหมือนกับการใช้งานโทรศัพท์ธรรมดาทั่วๆไป
สำหรับข้อเสียของ แอนดรอยด์เองก็๋มีเช่นกันครับ ไม่ใช่มีแต่ด้านดีเพียงอย่างเดียว
1.การ Sync ข้อมูลสามารถทำได้เฉพาะ Contact กับ Calendar เท่านั้น
2.หากไม่ใช่เครื่องยี่ห้อ HTC อาจจะไม่มีโปรแกรมตัวกลางช่วยในการ Sync เพราะหากเป็น HTC จะใช้ HTC Sync แต่หากเป็นยี่ห้อดังๆอื่นๆก็คงน่าจะมีของเค้าเอง แต่หากเป็นเครื่องมาจากจีนพวกโนเนม สงสัยจะลำบาก
3.การทำงานของเครื่องจะต้องเชื่อมต่อ GPRS ไว้ตลอดเวลา แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตมากที่จะต้องกังวลเพราะมันมีโปรแกรมปิดการทำงานได้แล้วครับ เหมือนเปิดปิด WiFi
4.การใช้งานพวกไฟล์เอกสาร MS Office นั้น สามารถเปิดดูได้ทั้ง Word และ Excel แต่ยังไม่สามารถแก้ไขอะไรในเอกสารได้ ( หมายถึงโปรแกรมที่แถมมาพร้อมกับเครื่อง ไม่นับพวกโปรแกรมเสริม ซึ่งต่างกับ Windows Mobile ที่โปรแกรมมาตราฐานสามารถทำงานได้ดีกว่า)
5.การแก้ไขระบบ หรือการอัพเดทตัวระบบโดยส่วนใหญ่จะมีการควบคุมจากทาง Google
6.เครื่องที่ใช้ระบบปฎิบัติการ แอนดรอยด์ แต่ละยี่ห้อ จะมี service ของ Google ที่แถมมาให้แตกต่างกันไป บางเครื่องอาจจะไม่มี Google map / Gmail หรือ Market
7.การทำงานของแอนดรอยด์เน้นการใช้นิ้วเป็นหลัก เพราะฉะนั้นเมนูต่างๆออกแบบมาสำหรับการใช้นิ้ว รวมถึงหน้าจอเครื่องส่วนใหญ่เป็นแบบ Capacitive Touchscreen ใช้ Stylus จิ้มไม่ได้ นอกจากเครื่อง HTC Tattoo เพียงรุ่นเดียวที่ทำได้
8.โปรแกรมการใช้งาน GPS แบบ Turn by turn ยังไม่มีเป็นเรื่องเป็นราว ( หมายถึงที่แถมมาพร้อมกับเครื่อง )
การติดตั้งโปรแกรมของ แอนดรอยด์
รูปแบบการติดตั้งโปรแกรม
1.ติดตั้งจากบริการ Market บนเครื่องเอง สำหรับตัว Market จะเป็นบริการคล้ายๆ App Store ของเครื่อง iPhone คือจะต้องเข้าผ่านจากเครื่องโดยตรงอาศัย GPRS หรือ WiFi ในการเชื่อมต่อเพื่อเข้าไปเลือกดูรายชื่อ โปรแกรมต่างๆบน Market แล้วจัดการ Install ลงในเครื่องทันที แต่ว่าบริการตัว Market นั้นจะไม่มีในเครื่องทุกเครื่องที่เป็น แอนดรอยด์นะครับ จะมีเฉพาะบางยี่ห้อที่เซ็นข้อตกลงกับทาง Google
2.แบบ Online คือเข้าไปที่เว็บที่ให้บริการ แล้ว Download แบบตรงๆติดตั้งลงในเครื่องทันที คล้ายๆกับการติดตั้ง cab ไฟล์บน Windows Mobile หรือติดตั้งใน Cydia ของ iPhone
3.ติดตั้งแบบ Manual คือ กรณีที่เราได้ไฟล์ นามสกุล .apk มาจากเพื่อน หรือคนอื่น copy ใส่ card มาให้ เรา การที่จะนำไฟล์เหล่านั้นมาติดตั้งได้ ต้องผ่านโปรแกรมหนึ่งตัวชื่อว่า app installer เพื่อช่วยในการติดตั้ง
โปรแกรมของ android ปกติ เป็นโปรแกรมประเภท stand alone คือไม่มีการแตกไฟล์หลังการติดตั้งแบบ Windows เพราะฉะนั้นการ remove หรือ uninstall ออกก็ลบทิ้งได้ง่ายมาก ไม่ทิ้งขยะให้มั่วเหมือนใน Windows Mobile แต่อย่างที่บอกไปว่า สมมุติว่าเพื่อนเรา เอา memory card ที่มีโปรแกรมของ แอนดรอยด์ มาให้เรา เราจะเอา card มาใส่แล้วทำงานเลยทันทีไม่ได้ ต้องผ่านโปรแกรมที่ชื่อว่า app installer ก่อน ช่วยในการติดตั้งครับ
การใช้งาน Multimedia
ในเครื่องโดยปกติแล้วจะมีโปรแกรมเล่นไฟล์ VDO ไฟล์ภาพ และไฟล์ เพลงให้มาเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่มีโปรแกรมพวก File manager ให้มา ต้องไปหาลงเองต่างหาก สำหรับการจะเล่นไฟล์พวกมัลติมิเดียต่างๆนั้น จะต้องมี memory card ในเครื่อง และการโอนไฟล์สามารถทำได้ง่ายๆ คล้ายๆกับการเสียบ Flash Drive เข้า PC เพื่อโดยไฟล์ลงใน Card ในเครื่อง แอนดรอยด์ก็เช่นกันเมื่อเสียบสาย USB เข้ากับ PC ให้เลือกเป็น Mass Storage แล้วเราจะเห็น Drive ใหม่บนเครื่อง PC หลังจากนั้นก็โยนไฟล์พวกมัลิมิเดียลงไปใน Card ได้ทันที
สำหรับไฟล์ที่รองรับ
Audio formats supported: AAC, AAC+, AMR-NB, MP3, WMA, WAV, AAC-LC, MIDI, OGG. Video formats supported: MP4, 3GP
การเชื่อมต่อและเล่น Net
เครื่องในรูปแบบ แอนดรอยด์แทบทุกตัวจะมีโปรแกรม Browser ให้มาอยุ่แล้วครับ แต่ใน market เองจะมีโปรแกรม Browser อื่นๆที่มีประสิทธิภาพมากกว่าที่ให้มาในตัวเครื่องซึ่งส่วนใหญ่สามารถโหลดใช้งานได้ฟรี โปรแกรม Browser เครื่องเองสามารถ Run ทำงานหน้าต่างเพื่อดูเว็บต่างๆได้พร้อมกัน 8 หน้าจอ สามารถเลือกสลับขึ้นมาโชว์ได้ แบบเวลาเล่นไพ่ เลือกสลับไปมาได้ครับ โดยการเชื่อมต่อจะต้องอาศัย GPRS หรือ WiFi ในการเชื่อมต่อ ซึ่งโดนปกติแล้วเราจะสามารถ ออนไลน์ได้ตลอดเวลาทันทีเพราะเครื่องมันเป็นแบบระบบ Always on สำหรับการเชื่อมต่อ GPRS ค้างเอาไว้
การรับส่ง Email ก็เช่นกัน โดยปกติจะให้ใช้ service ของ Gmail เป็นหลัก โดยในครั้งแรกจะต้องมีการ set up เล็กน้อย หากใช้บริการของทาง Gmail แต่หากเป็นการใช้งาน POP3 ทั่วไปก็สามารถ setup เหมือนปกติในเครื่องอื่นๆ พิเศษหน่อยตรงที่ใครใช้ Gmail มันจะมี icon บนหน้าจอแยกออกมาเลยครับ ในการ sync ครั้งแรกมันจะดึงข้อมูลจาก account บน Gmail เรามาให้เอง ทั้ง Contact และ Calendar ต่างๆ ซึ่งโดยความเห็นผมเอง บอกได้เลยว่า งง มาก มั่วมากตรงจุดนี้เราสามารถเลือกตั้งค่าใหม่เองได้ครับ สิ่งที่ผมชอบก็คือการใช้งาน Gmail บนเครื่อง แอนดรอยด์เป็นการใช้งานแบบ Real time ตลอดเวลา คือเวลามี Mail ใหม่เข้ามาปุ๊บ มันจะทำการแจ้งเตือนทันที คล้ายๆ Push Mail แต่ไม่ถึงกับเร็วเท่า และเราสามารถเลือกบริหารจัดการ Email บนเครื่อง แอนดรอยด์ได้เหมือนใช้งานบน PC หากลบ mail ทิ้งไป ข้อมูล Email นั้นๆใน Account ของเราก็ถูกลบไปทันที
การใช้งานเป็น Wireless Modem ในเครื่องรุ่นใหม่อย่าง Hero หรือ Tattoo จะมีการใช้งานในส่วนนี้รองรับมาให้เรียบร้อยแล้วครับ
การใช้งาน GPS
น่าเสียดายครับ ที่ แอนดรอยด์ในตอนนี้ตัว hardware มี GPS รองรับใช้งานอยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการใช้งานกับโปรแกรมที่รองรับเป็นหลัก เช่นพวก Digital Compass หรือ โปรแกรมสนุกๆต่างๆอย่าง Air Paint แต่ทว่าโปรแกรมการนำทางแบบ Turn by turn บนเครื่อง แอนดรอยด์แบบจริงๆจังๆสำหรับเมืองไทยยังไม่มีครับ ( หมายถึงที่แถมมาพร้อมกับเครื่อง ) ในอนาคตในแอนดรอย์เวอร์ชั่น 2.0 จะมี Google map ตัวใหม่ออกมารองรับการทำงานแบบ Turn by turn ด้วยแต่ว่าในตอนนี้ทาง Google เองยังไม่มีนโยบายรองรับประเทศไทยสำหรับ service ตัวใหม่นี้
ทิศทางของแอนดรอยด์ในตลาด
แม้ว่า แอนดรอยด์จะเป็นระบบแบบ open source ก็ตามแต่ก็ใช้ว่ามันจะเป็นเครื่องราคาถูกแบบเครื่องโนเนม มันมีข้อตกลงและข้อจำกัดซ่อนเร้นอีกเยอะครับทำให้เครื่องทุกวันนี้มันราคาไม่ได้ถูกไปเหมือนอย่างที่เราคิดในตอนแรก เพราะในแง่คนขายเอง เค้าเองจะต้องต่อสู่กับข้อตกลงและข้อบังคับสารพัดจากทาง Google ซึ่งมีข้อบังคับที่น่าแปลกใจหลายๆส่วน เช่นง่ายๆการ อัพเกรดต่างๆแม้แต่การจะบรรจุอะไรลงไปใน ROM จะต้องมีการขออนุญาตกับทาง Google ซึ่งระบบจะมีการติดต่อกับทาง Google ตลอดแม้แต่การอัพ เฟริมแวร์ หากจะอัพก่อนวันที่เค้ากำหนดเครื่องก็จะไม่สามารถอัพผ่านไปได้
จุดขายของเครื่องแอนดรอยด์ในตลาดเวลานี้ นอกจากเรื่องของ Spec Hardware แล้ว เรื่องที่ใช้เป็นกลยุทธ์ในการทำตลาดก็คือเรื่องของ UI เพราะเครื่องแต่ละยี่ห้อจะมี UI ที่พํฒนากันเอง ใครจะเจ๋งกว่ากันก็วัดกันตรงนี้แหละครับ และเรื่องของโปรแกรมพวก PC Conduit เป็นโปรแกรมที่ใช้เป็นตัวกลางในการ Sync กับ PC ซึ่งโดยปกติแล้ว เครื่องในระบบอื่นๆ เช่น Windows mobile จะมี Active sync หรือ iTune ของ iPhone ซึ่งจะมีมาให้จากโรงงาน แต่สำหรับแอนดรอยด์ไม่มีครับ ทำให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องต้องพัฒนากันเอง เช่น HTC จะมี HTC Sync
แอนดรอยด์ตอนนี้เนื้อหอมสุดๆ เพราะสังเกตจากข่าวรายวันในต่างประเทศจะมีแต่ข่าวเครื่องแอนดรอยด์เสียเป็นส่วนใหญ่ ผมเองไม่ขอบอกว่ามันเป็นระบบปฎิบัติการที่ดีที่สุดในเวลานี้ก็แล้วกัน แต่มันเป็นระบบที่หากหลายๆคนได้มีโอกาสสัมผัสอาจจะชอบมันก็ได้ ตัวผมเองแรกๆเมื่อสัมผัสในเวอร์ชั่นแรกๆรู้สึกเบื่อกับข้อจำกัดของมัน ที่ไม่สามารถปรับแต่งได้มาก แต่พอได้ลองเครื่องที่มี UI ที่ดีขึ้นทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นมาก เพราะ Default UI ของระบบ แอนดรอยด์เอง แม้ว่าจะใช้ง่าย เข้าใจง่าย แต่ใช้แล้วไม่ถูกใจ ไม่มันส์เอาเสียเลย
ขอบคุณข่าวจาก www.th.msn.com
วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
แอลซีดี ทีวี รุ่นใหม่ดีกว่าอย่างไร
เพื่อนของนายเกาเหลาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับทีวีมากๆ เพราะนั่นคือ การพักผ่อนที่วิเศษสุดสำหรับเขา ดังนั้น การลงทุนกับทีวีจึงเป็นเรื่องที่ไม่เคยอั้น...ป๋าซะเหลือเกิน... สองวันก่อนเพื่อนคนนี้โทรมาปรึกษาทำนองที่ว่า กำลังสนใจที่จะเลือกซื้อจอแอลซีดีทีวีที่ความละเอียดสูง หรือ High-Definition แต่ก็ได้ยินมาว่าแอลซีดีทีวีรุ่นใหม่ที่ออกมา จะมีอัตราการรีเฟรชที่เร็วขึ้น และใช้เทคโนโลยี LED เพื่อนคนนี้ก็เลยเกิดความสงสัยว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมได้มากแค่ไหน ?
ก่อนอื่นต้องยอมรับว่า บางครั้งจอแอลซีดีก็จะมีปัญหาเรื่องของการแสดงภาพยนตร์ หรือวิดีโอที่มีแอ็กชันเร็วๆ หรือกีฬาที่ใช้ความเร็ว เนื่องจากการแสดงภาพที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจะทำให้เกิดอาการของภาพเปื้อนเลือนเละ ซึ่งดูเหมือนว่า อัตราการรีเฟรชที่สูงขึ้นจะช่วยขจัดปัญหานี้ไปได้
สำหรับอัตราการรีเฟรช (Refresh rate) อาจจะอธิบายอย่างหยาบๆ ได้ว่า เป็นตัวเลขที่บอกถึงจำนวนครั้งต่อวินาที (Hertz) ในการยิงภาพขึ้นบนหน้าจอ ซึ่งปัจจุบันจะอยู่ที่ 60 Hertz แต่อัตราการรีเฟรชของจอแอลซีดีรุ่นใหม่จะขยับขึ้นไปอยู่ที่ 100 ถึง 120 Hertz แน่นอนว่า ภาพแอ็กชันเร็วๆ จะได้รับการตอบสนองที่ดีขึ้น อาการภาพเลอะเวลาที่แสดงภาพที่เร็วๆ น่าจะเบาบางไป หรือสังเกตไม่ทัน
ส่วนเทคโนโลยี LED (Light Emitting Diode) ที่เพิ่มเข้ามานั้นจะช่วยเพิ่มอัตราคอนทราสต์ (Contrast ratio: ความแตกต่างระหว่างความสว่างและความมืด) ตัวอย่างเช่น จอ LED LCD อาจจะมีอัตราคอนทราสต์อยู่ที่ 100,000:1 ในขณะที่จอแอลซีดีทั่วไปอาจจะมีอัตราคอนทราสต์อยู่ที่ 15,000:1 ซึ่งผลลัพธ์ที่แตกต่างกันก็คือ คุณจะได้เห็นภาพของสีดำที่ดำกว่าปกติ และสีขาวที่ขาวมากขึ้นนั่นเอง... แต่ก็แน่นอนว่า จอพวกนี้จะมีราคาสูงกว่า จอแอลซีดีที่วางตลาดอยู่ในปัจจุบันครับ
ทิปจาก คอมพิวเตอร์ทูเดย์
ก่อนอื่นต้องยอมรับว่า บางครั้งจอแอลซีดีก็จะมีปัญหาเรื่องของการแสดงภาพยนตร์ หรือวิดีโอที่มีแอ็กชันเร็วๆ หรือกีฬาที่ใช้ความเร็ว เนื่องจากการแสดงภาพที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจะทำให้เกิดอาการของภาพเปื้อนเลือนเละ ซึ่งดูเหมือนว่า อัตราการรีเฟรชที่สูงขึ้นจะช่วยขจัดปัญหานี้ไปได้
สำหรับอัตราการรีเฟรช (Refresh rate) อาจจะอธิบายอย่างหยาบๆ ได้ว่า เป็นตัวเลขที่บอกถึงจำนวนครั้งต่อวินาที (Hertz) ในการยิงภาพขึ้นบนหน้าจอ ซึ่งปัจจุบันจะอยู่ที่ 60 Hertz แต่อัตราการรีเฟรชของจอแอลซีดีรุ่นใหม่จะขยับขึ้นไปอยู่ที่ 100 ถึง 120 Hertz แน่นอนว่า ภาพแอ็กชันเร็วๆ จะได้รับการตอบสนองที่ดีขึ้น อาการภาพเลอะเวลาที่แสดงภาพที่เร็วๆ น่าจะเบาบางไป หรือสังเกตไม่ทัน
ส่วนเทคโนโลยี LED (Light Emitting Diode) ที่เพิ่มเข้ามานั้นจะช่วยเพิ่มอัตราคอนทราสต์ (Contrast ratio: ความแตกต่างระหว่างความสว่างและความมืด) ตัวอย่างเช่น จอ LED LCD อาจจะมีอัตราคอนทราสต์อยู่ที่ 100,000:1 ในขณะที่จอแอลซีดีทั่วไปอาจจะมีอัตราคอนทราสต์อยู่ที่ 15,000:1 ซึ่งผลลัพธ์ที่แตกต่างกันก็คือ คุณจะได้เห็นภาพของสีดำที่ดำกว่าปกติ และสีขาวที่ขาวมากขึ้นนั่นเอง... แต่ก็แน่นอนว่า จอพวกนี้จะมีราคาสูงกว่า จอแอลซีดีที่วางตลาดอยู่ในปัจจุบันครับ
ทิปจาก คอมพิวเตอร์ทูเดย์
วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] เชื่อว่า คงจะมีผู้ใช้หลายๆ ท่านที่ตั้งใจจะเลือก Windows 7 กับโน้ตบุ๊ก หรือคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่กำลังจะถอยในงาน COMMART COMTECH THAILAND 2009 อย่างแน่นอน ซึ่งรวมถึงผู้ที่ต้องการอัพเกรดไปใช้โอเอสตัวนี้กับคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้วด้วย อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่อยากจะแนะนำคุณผู้อ่านทุกท่านก็คือ ท่านได้เตรียมพร้อมสำหรับความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ทีมากับโอเอสตัวใหม่แล้ว หรือยัง? โดยเฉพาะการติดตั้งซอฟต์"แอนตี้ไวรัส" ซึ่งคงจะดีเป็นอย่างยิ่ง หากมีของฟรี!!! ให้ลองใช้ในขณะที่ปกป้องภัยอันตรายบนเน็ตได้เป็นอย่างดี
สำหรับซอฟต์แวร์ แอนตี้ไวรัส (anti-virus) ที่เข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการ Windows 7 อีกทั้งยังมีความสามารถในการป้องกันภัยคุกคามต่างๆ ที่อยู่บนเน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ต้องขอบอกว่า มีให้เลือกใช้อยู่หลายตัวเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ในบทความนี้ จะขอแนะนำเฉพาะซอฟต์แอนตี้ไวรัสที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง ที่สำคัญ พวกมันสามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งใช้งานได้ฟรีอย่างมั่นใจอีกด้วย ส่วนจะมีตัวไหนบ้างนั้น เราไปติดตามกันได้เลยครับ
สำหรับซอฟต์แวร์ แอนตี้ไวรัส (anti-virus) ที่เข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการ Windows 7 อีกทั้งยังมีความสามารถในการป้องกันภัยคุกคามต่างๆ ที่อยู่บนเน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ต้องขอบอกว่า มีให้เลือกใช้อยู่หลายตัวเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ในบทความนี้ จะขอแนะนำเฉพาะซอฟต์แอนตี้ไวรัสที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง ที่สำคัญ พวกมันสามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งใช้งานได้ฟรีอย่างมั่นใจอีกด้วย ส่วนจะมีตัวไหนบ้างนั้น เราไปติดตามกันได้เลยครับ
Microsoft Security Essentials (MSE v1.0)
หากไม่แนะนำแอนตี้ไวรัสตัวนี้กับคุณผู้อ่านก็คงเป็นเรื่องแปลกเหมือนกัน เพราะมันเป็นของไมโครซอฟท์ (Microsoft) เอง ซึ่งล่าสุดได้ออกแอนตี้ไวรัสแจกฟรีให้กับผู้ใช้ พร้อมด้วยระบบการอัพเดตอัตโนมัติ เพื่อทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณปลอดภัยตลอดเวลา จุดเด่นของมันก็คือ โปรแกรมมีขนาดเล็ก เบา และสามารถป้องกันมัลแวร์ (ไวรัส สปายแวร์ต่างๆ) ที่จะบุกเข้ามาทำร้ายพีซีของคุณได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ มันยังทำงานอยู่ด้านหลัง (background process) อย่างเงียบๆ แต่มีประสิทธิภาพ โดยไม่มีการขัดจังหวะผู้ใช้ หรือต้องเข้าไปวุ่นวายอะไรกับมันมากมายเลย สำหรับเวอร์ชันล่าสุด ออกเมื่อเดือนกันยายน โดยคุณผู้อ่านที่สนใจสามารถดาวน์โหลด Microsoft Security Essentials ได้ที่นี่
หากไม่แนะนำแอนตี้ไวรัสตัวนี้กับคุณผู้อ่านก็คงเป็นเรื่องแปลกเหมือนกัน เพราะมันเป็นของไมโครซอฟท์ (Microsoft) เอง ซึ่งล่าสุดได้ออกแอนตี้ไวรัสแจกฟรีให้กับผู้ใช้ พร้อมด้วยระบบการอัพเดตอัตโนมัติ เพื่อทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณปลอดภัยตลอดเวลา จุดเด่นของมันก็คือ โปรแกรมมีขนาดเล็ก เบา และสามารถป้องกันมัลแวร์ (ไวรัส สปายแวร์ต่างๆ) ที่จะบุกเข้ามาทำร้ายพีซีของคุณได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ มันยังทำงานอยู่ด้านหลัง (background process) อย่างเงียบๆ แต่มีประสิทธิภาพ โดยไม่มีการขัดจังหวะผู้ใช้ หรือต้องเข้าไปวุ่นวายอะไรกับมันมากมายเลย สำหรับเวอร์ชันล่าสุด ออกเมื่อเดือนกันยายน โดยคุณผู้อ่านที่สนใจสามารถดาวน์โหลด Microsoft Security Essentials ได้ที่นี่
Avira AntiVir Personal (Free Version)
Avira AntiVir Personal แอนตี้ไวรัส "ร่มแดง" ที่หลายคนคุ้นเคย เป็นซอฟต์แวร์แจกฟรีอีกหนึ่งตัวที่ได้รับความชื่นชมจากผู้ใช้ และเว็บไซต์ต่างๆ ที่รีวิวถึงความสามารถของมัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเร็วในการสแกน และประสิทธิภาพในการจับไวรัส และสปายแวร์ โดยเฉพาะการใช้ทรัพยากรระบบ"น้อย"รวมถึงการปกป้องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้แบบเรียลไทม์ด้วยเทคโนโลยี AntiVir Guard โดยระบบจะมีการอัพเดตฐานข้อมูลให้กับแอนตี้ไวรัสและแอนตี้สปายแวร์ระหว่างการติดตั้งด้วย ซึ่งทำให้ระบบมีความพร้อมต่อกรจากภัยคุกคามทันทีที่ติดตั้งเสร็จ สำหรับ Avira AntiVir Personal verison 9 นอกจากจะสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีแล้ว มันยังเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่อย่าง Windows 7 ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สำหรับคุณผู้อ่านที่สนใจสามารถดาวน์โหลด Avira AntiVir Personal version 9 ได้ที่นี่
Avira AntiVir Personal แอนตี้ไวรัส "ร่มแดง" ที่หลายคนคุ้นเคย เป็นซอฟต์แวร์แจกฟรีอีกหนึ่งตัวที่ได้รับความชื่นชมจากผู้ใช้ และเว็บไซต์ต่างๆ ที่รีวิวถึงความสามารถของมัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเร็วในการสแกน และประสิทธิภาพในการจับไวรัส และสปายแวร์ โดยเฉพาะการใช้ทรัพยากรระบบ"น้อย"รวมถึงการปกป้องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้แบบเรียลไทม์ด้วยเทคโนโลยี AntiVir Guard โดยระบบจะมีการอัพเดตฐานข้อมูลให้กับแอนตี้ไวรัสและแอนตี้สปายแวร์ระหว่างการติดตั้งด้วย ซึ่งทำให้ระบบมีความพร้อมต่อกรจากภัยคุกคามทันทีที่ติดตั้งเสร็จ สำหรับ Avira AntiVir Personal verison 9 นอกจากจะสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีแล้ว มันยังเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่อย่าง Windows 7 ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สำหรับคุณผู้อ่านที่สนใจสามารถดาวน์โหลด Avira AntiVir Personal version 9 ได้ที่นี่
AVG Anti-Virus Free Edition 9.0
AVG Anti-Virus Free Edition เป็นซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสแจกฟรี!!! ที่ได้รับความนิยมไม่น้อยเหมือนกัน โดยเวอร์ชันล่าสุด ไม่เพียงแต่จะทำงานกับ Windows 7 ได้อย่างสมบูรณ์เท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับความสามารถในการป้องกันแอนตี้สปายแวร์อีกด้วย AVG ได้ชื่อว่าเป็นแอนตี้ไวรัสที่มีอินเตอร์เฟซการใช้งานที่ง่ายมาก ในขณะทีมีตัวเลือกสำหรับการป้องกันที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้ นอกจากนี้ มันยังมาพร้อมกับองค์ประกอบการทำงาน และออปชันต่างๆ ที่มักพบในซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสเวอร์ชันโปรเฟชชั่นนัล หรือเวอร์ชันจ่ายตังค์ตัวอื่นๆ อีกด้วย คุณผู้อ่านสามารถดาวน์โหลด AVG Anti-Virus verision 9 ได้ที่นี่
ขอบคุณข่าวจาก www.arip.co.th
วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
Firefox : ติดตั้งไม่ได้...เพราะไฟล์เสีย
ทิปนี้สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งหันมาใช้ Firefox หรือแม้แต่มือเก๋าก็อาจจะเคยประสบปัญหานี้กันมาบ้างแล้ว เรื่องของเรื่องก็คือ ผู้ใช้บางคนพบว่า หลังจากดาวน์โหลดโปรแกรมติดตั้ง Firefox จาก Mozilla มาเรียบร้อยแล้ว ขณะติดตั้งโปรแกรม ระบบกลับแจ้งข้อความผิดพลาดขึ้นมา โดยระบุว่า ไฟล์เสีย!!! (file is corrupt) หลายคนแก้ปัญหาด้วยการดาวน์โหลดไฟล์มาใหม่ แล้วลองติดตั้งอีกครั้ง แต่ก็ยังต้องพบกับปัญหาเดิมอีก
ก่อนอื่นนายเกาเหลาคงต้องบอกว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาข้างต้นนี้มีโอกาสได้มากมาย แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นผลมาจากการที่มีไฟล์ชั่วคราวในโฟลเดอร์ Temporary Internet Files มากเกินไป ซึ่งไม่ต้องแปลกใจสำหรับมือใหม่ที่มักจะบ่นว่า IE ทำงานช้ามาก ดังนั้น ขั้นแรกของการแก้ปัญหาลักษณะนี้ก็คือ อยากให้ลองลบไฟล์ชั่วคราวเหล่านี้ออกไปก่อน โดยใน IE คลิ้กเมนู Tools เลือกคำสั่ง Internet Options คลิ้กปุ่ม Delete ในเซกชัน Browsing history จากนั้นคลิ้กปุ่ม Delete files ที่อยู่ในเซกชัน Internet Temporary Files ที่อยู่บนสุด หลังจากลบไฟล์ชั่วคราวออกหมดแล้ว คลิ้กปุ่ม Close ตามด้วยปุ่ม OK เป็นอันเรียบร้อย
นอกจากนี้ อยากให้ตรวจสอบระบบด้วยว่า มีไฟร์วอลล์แค่ตัวเดียวที่กำลังทำงานอยู่ในระบบขณะนั้น ซึ่งหากมี 2 ตัว โดยตัวหนึ่งเป็น Windows Firewall ให้ปิดการทำงานของไฟร์วอลล์ตัวนี้ลงไปก่อน เพราะมันค่อนข้างจะมีปัญหากับชาวบ้านพอสมควร
หากแก้ปัญหาด้วยสองวิธีข้างต้นแล้ว ยังไม่สามารถติดตั้ง Firefox ได้อีก นายเกาเหลาว่า ปัญหาอาจจะอยู่ที่การ์ดเน็ตเวิร์กที่ใช้ ซึ่งโอกาสน้อยมาก ทางแก้คือ ตรวจสอบที่เว็บไซต์ของผู้ผลิต ในกรณีที่ใช้ระบบเครือข่ายไร้สาย ขณะติดตั้ง Firefox ลองเปลี่ยนมาใช้การเชื่อมต่อกับโมเด็ม ADSL โดยตรงดูนะครับ และทั้งหมดคือแนวทางที่นายเกาเหลาเชื่อว่า น่าจะช่วยให้หมดปัญหาการติดตั้ง Firefox ไม่ได้แล้วนะครับ
ขอบคุณทิปจาก คอมพิวเตอร์ทูเดย์
ก่อนอื่นนายเกาเหลาคงต้องบอกว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาข้างต้นนี้มีโอกาสได้มากมาย แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นผลมาจากการที่มีไฟล์ชั่วคราวในโฟลเดอร์ Temporary Internet Files มากเกินไป ซึ่งไม่ต้องแปลกใจสำหรับมือใหม่ที่มักจะบ่นว่า IE ทำงานช้ามาก ดังนั้น ขั้นแรกของการแก้ปัญหาลักษณะนี้ก็คือ อยากให้ลองลบไฟล์ชั่วคราวเหล่านี้ออกไปก่อน โดยใน IE คลิ้กเมนู Tools เลือกคำสั่ง Internet Options คลิ้กปุ่ม Delete ในเซกชัน Browsing history จากนั้นคลิ้กปุ่ม Delete files ที่อยู่ในเซกชัน Internet Temporary Files ที่อยู่บนสุด หลังจากลบไฟล์ชั่วคราวออกหมดแล้ว คลิ้กปุ่ม Close ตามด้วยปุ่ม OK เป็นอันเรียบร้อย
นอกจากนี้ อยากให้ตรวจสอบระบบด้วยว่า มีไฟร์วอลล์แค่ตัวเดียวที่กำลังทำงานอยู่ในระบบขณะนั้น ซึ่งหากมี 2 ตัว โดยตัวหนึ่งเป็น Windows Firewall ให้ปิดการทำงานของไฟร์วอลล์ตัวนี้ลงไปก่อน เพราะมันค่อนข้างจะมีปัญหากับชาวบ้านพอสมควร
หากแก้ปัญหาด้วยสองวิธีข้างต้นแล้ว ยังไม่สามารถติดตั้ง Firefox ได้อีก นายเกาเหลาว่า ปัญหาอาจจะอยู่ที่การ์ดเน็ตเวิร์กที่ใช้ ซึ่งโอกาสน้อยมาก ทางแก้คือ ตรวจสอบที่เว็บไซต์ของผู้ผลิต ในกรณีที่ใช้ระบบเครือข่ายไร้สาย ขณะติดตั้ง Firefox ลองเปลี่ยนมาใช้การเชื่อมต่อกับโมเด็ม ADSL โดยตรงดูนะครับ และทั้งหมดคือแนวทางที่นายเกาเหลาเชื่อว่า น่าจะช่วยให้หมดปัญหาการติดตั้ง Firefox ไม่ได้แล้วนะครับ
ขอบคุณทิปจาก คอมพิวเตอร์ทูเดย์
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)