วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2553

Vista : ช่วยด้วย!!! ถังขยะหาย

เพื่อนนายเกาเหลา หัวเสียเป็นการใหญ่หลังจากพบว่า เผลอเปิดโน้ตบุ๊กตัวใหม่ที่เพิ่งติดตั้งซอฟต์แวร์เสร็จไว้ที่โต๊ะทำงานแป๊บเดียว มีมือดีมาแอบเล่นโน้ตบุ๊กของเธอจนได้ ตอนแรกก็ไม่ได้เอะใจอะไรจนกระทั่งพบว่า ถังขยะใสๆ ของ Vista อันตรธานไปไหนก็ไม่รู้


อย่างที่บอกว่า Recycle Bin ของ Vista มีคำสั่งลบไอคอนออกไปได้ เฮ้อ! แต่ไม่เป็นไรครับ นายเกาเหลามีวิธีกู้ถังขยะในวิสต้ามาฝาก ซึ่งง่ายมากๆ เลย เพียงไม่คลิ้กก็พลิกถังขยะกลับคืนมาได้แล้ว ไปดูกันครับ
1.ให้คลิ้กขวาบนพื้นที่ว่างบนเดสก์ทอปของ Vista เลือกคำสั่ง Personalize
2.เลือก Change Desktop Icons


3.ภายใต้ Desktop Icon Settings คลิ้กเครื่องหมายถูกหน้ารายการ Recycle Bin


4.ให้คลิ้ก OK
สำหรับขั้นตอนที่ 3 เพื่อนๆ สามารถเช็กบ็อกซ์หน้ารายการอย่าง Computer หรือ Control Panel เพื่อให้มีไอคอนเรียกใช้งานสองส่วนนี้บนเดสก์ทอปก็ได้นะครับ เนื่องจากมันช่วยลดขั้นตอนที่จะต้องคลิ้กปุ่ม Start เพื่อเข้าถึงส่วนทำงานหลักสำคัญๆ ทั้งสองส่วนนี้

ขอบคุณทิปจาก คอมพิวเตอร์ทูเดย์

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553

Windows XP : รีสตาร์ต XP จาก Task Manager

เชื่อว่า ประสบการณ์ที่ Windows XP แช่แข็งตัวเอง ไม่ยอมรับคำสั่งใดๆ แม้แต่จะเปิดเมนู Start ขึ้นมาก็ยังทำไม่ได้เลย คงจะเคยเกิดขึ้นกับเพื่อนๆ หลายคนส่วนใหญ่เลือกวิธีปลิดชีพด้วยการกดปุ่ม Power เพื่อปิดเครื่อง ถ้าไม่ยอมก็ดึงปลั๊กมันซะเลย อะไรจะโหดร้ายปานนั้น

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เพื่อนๆ จะใช้ไม้ตายจัดการกับปัญหาด้วยวิธีดังกล่าว นายเกาเหลาอยากให้ลองอีกสักวิธีหนึ่งจะได้ไหมครับ ที่สำคัญมันปลอดภัยกว่า วิธีข้างต้นนี้อย่างแน่นอน นั่นก็คือ การสั่งรีสตาร์ตผ่าน Task Manager

การปิดเครื่องด้วยวิธี hard reset ที่เป็นไม้ตาย บ่อยครั้งที่พบว่า มันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ระบบปฏิบัติการ และคอมพิวเตอร์มีอาการรวนในอนาคตอันใกล้

การใช้รีสตาร์ตระบบด้วยซอฟต์แวร์เป็นวิธีที่นุ่มนวลกว่า ซึ่งมีอยู่ 2 วิธีด้วยกันในการที่เพื่อนๆ จะเปิด Task Manger ขึ้นมานั่นก็คือ

กดปุ่ม Ctrl + Alt + Del แล้วคลิ้กบนปุ่ม Task Manager
กดปุ่ม Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager

เมื่อ Task Manger ปรากฎขึ้นมาแล้ว นอกจากเพื่อนๆ จะสามารถค้นหาโพรเซสที่แฮงอยู่ในระบบ เพื่อปิดมันลงไป เพื่อว่า ระบบอาจจะฟื้นกลับมาอีกครั้งก็ได้ หรือจะคลิ้กเมนู Shut Down เลือกคำสั่ง Restart เพื่อให้คอมพิวเตอร์เริ่มต้นทำงานทุกอย่างใหม่ก็ได้อีกเช่นกัน ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ให้ความปลอดภัยกับระบบมากกว่าการปิดสวิตช์คอมพิวเตอร์อย่างแน่นอนครับ

ขอบคุณทิปจาก คอมพิวเตอร์ทูเดย์

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Vista : ReadyBoost ไม่เวิร์ก

หลังจากที่ผู้ใช้เพลิดเพลินจำเริญใจกับอินเทอร์เฟซใหม่ของวิสต้าไปแล้ว หลายคนเริ่มทดลองใช้งานคุณสมบัติใหม่ๆ ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วของการทำงานให้กับระบบได้ อย่างเช่น ReadyBoost ซึ่งล่าสุด นายเกาเหลาได้รับอีเมล์สอบถามเข้ามาฉบับหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า เขาได้พยายามใช้ ReadyBoost ในวินโดวส์วิสต้าบนแลปทอปตัวใหม่ โดยใช้กับการ์ดหน่วยความจำ SD แต่วิสต้าแจ้งว่า การ์ดหน่วยความจำของเขาไม่ได้ประสิทธิภาพตามที่ระบบต้องการ

โดยสรุปแล้ว ReadyBoost จะทำหน้าที่เสมือนหน่วยความจำเพิ่มเติมให้กับแรมของระบบปฏิบัติการนั่นเอง โดยใช้หน่วยความจำแฟลช (การ์ดหน่วยความจำ ธัมบ์ไดรฟ์ ฯลฯ) ซึ่งสเปกขั้นต่ำของหน่วยความจำแฟลชที่จะใช้ทำ ReadyBoost ได้จะต้องมีขนาดอย่างน้อย 256 เมกะไบต์ ในขณะที่ระบบจะต้องมีแรมที่ไม่ถูกใช้งานอย่างน้อย 235 เมกะไบต์ นอกจากนี้ ขนาดของหน่วยความจำที่ใช้ทำ ReadyBoost จะได้สูงสุด 4 กิกะไบต์

ถ้าข้อกำหนดข้างต้นนี้ผ่านแล้ว สิ่งที่ต้องตรวจสอบต่อไปก็คือ ความเร็วในการอ่านข้อมูลของแฟลชไดรฟ์ที่ใช้จะต้องอยู่ที่ 2.5 เมกะไบต์ต่อวินาที (ที่ขนาดข้อมูล 4 กิโลไบต์) และความเร็วในการเขียนข้อมูลจะต้องเร็วถึง 1.75 เมกะไบต์ต่อวินาที (ที่การเขียนข้อมลขนาด 512 กิโลไบต์) แถมเวลาในการเข้าถึง (Access time) ต้องอยู่ที่ 1 มิลลิวินาที หรือต่ำกว่านี้ ดังนั้น ก่อนซื้อการ์ดหน่วยความจำ เพื่อใช้ทำ ReadyBoost ควรตรวจสอบข้อกำหนดเหล่านี้อย่างระมัดระวัง เพราะถ้าไม่ได้ตามสเปกนี้ ReadyBoost ก็จะไม่ทำงาน อีกวิธีง่ายๆ ก็คือ มองหาแฟลชไดรฟ์ที่แพ็กเกจระบุว่า Enhanced for Windows ReadyBoost ก็ได้ครับ
ขอบคุณทิปจาก คอมพิวเตอร์ทูเดย์

วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Notepad เสนอหน้าเปิดไฟล์ Excel

ปัญหาคลาสสิกประจำเกาเหลาทิปวันนี้เกิดขึ้นเมื่อสองสามวันก่อนที่จะลงมือเขียนต้นฉบับนี้เองครับ พอดีรุ่นน้องให้ช่วยไปดูไฟล์งานที่ทำบน Excel พอไปถึง คุณเธอก็จัดแจงก๊อบปี้ไฟล์ที่เตรียมไว้จากธัมบ์ไดรฟ์เข้าไปในโน้ตบุ๊กของเพื่อนชาย จากนั้นดับเบิลคลิ้กไฟล์งานสเปรดชีต แทนที่ระบบจะเปิดไฟล์ให้ในโปรแกรม Excel ปรากฏว่า กลายเป็น Notepad เสนอหน้าเปิดไฟล์พร้อมแสดงผลตัวอักษรยึกยือเต็มไปหมดขึ้นมาแทน เจ้าของเครื่องเห็นตกใจพร้อมกับโพล่งออกมาทันทีว่า สงสัยต้องลง Excel ใหม่แล้ว...โห...ขนาดนั้นเชียว!!


นายเกาเหลาว่า คงจะมีผู้ใช้อีกไม่น้อยทีเดียวที่เข้าใจผิดเช่นนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะโปรแกรม Excel เสียแต่อย่างใด แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมโยงระหว่างไฟล์ข้อมูลกับโปรแกรม (Association Program) ของระบบปฏิบัติการ โดยสิ่งที่เกิดขึ้นคือวินโดวส์ดันไปบอกให้เปิดไฟล์ดังกล่าวใน Notepad ซึ่งผู้ใช้สามารถแก้ไขให้เป็นปกติได้ภายในอึดใจ นี่ถ้าบ้าจี้ลง Excel ใหม่คงต้องวุ่นวายไปนานกว่าจะเสร็จธุระ


ขั้นตอนการแก้ไขก็คือ คลิ้กขวาบนไฟล์ Excel เลือกคำสั่ง Open With จากนั้นเลือก Choose Program… ในไดอะล็อกบ็อกซ์ที่แสดงรายการเลือกโปรแกรมที่ต้องการให้เปิดไฟล์นั้นๆ เลือก Microsoft Office Excel แต่ถ้าไม่เจอในรายการ ให้คลิ้กปุ่ม Browse แล้วค้นหาไฟล์ที่ชื่อ Excel.exe หลังจากเลือกโปรแกรมที่จะเปิดไฟล์ข้อมูล Excel ได้แล้ว ให้คลิ้กเลือกเครื่องหมายถูกหน้าข้อความ “Always use the selected program to open this kind of file” แล้วคลิ้กปุ่ม OK เพียงแค่นี้วินโดวส์ก็จะไม่จำอะไรผิดๆ เพี้ยนๆ เที่ยวไปเปิดไฟล์ข้อมูลในโปรแกรมที่ไม่ถูกต้องอย่างเช่นที่เกิดขึ้นกับรุ่นน้องคนนี้ของผมแล้วครับ ตกม้ากันมาเยอะแล้วกับปัญหาหญ้าปากคอกอย่างนี้
ขอบคุณทิปจาก คอมพิวเตอร์ทูเดย์

วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Vista : ปรับแต่ง Sidebar

เท่าที่นายเกาเหลาได้พูดคุยกับผู้ใช้วิสต้าหลายๆ คนพบว่า ทุกคนใช้งานเหมือน XP ประมาณว่า ไม่ค่อยได้ใช้คุณสมบัติบางอย่างที่เขาอุตส่าห์พัฒนาขึ้นมาให้ใช้ อย่างเช่น สไลด์บาร์ (Sidebar) ที่บางคนบ่นว่าไม่ชอบอีกต่างหากแน่ะ แต่ก็มีผู้ใช้ไม่น้อยที่สนใจ แต่ไม่รู้ว่ามันเปิด ปิด หรือปรับแต่งการใช้งานได้อย่างไร ? ซึ่งนายเกาเหลาว่า ถ้าผู้ใช้ได้สัมผัส และใช้งานสไลด์บาร์ อย่างจริงจังจะต้องชอบมันอย่างแน่นอน เพราะมันทำให้วิสต้ามีลูกเล่นการใช้งานที่ตอบสนองความพอใจของผู้ใช้มากมายทีเดียว

ปกติ Windows Sidebar สามารถเปิดการทำงานได้โดยคลิ้กปุ่ม Start, All Programs ตามด้วย Accessories ซึ่งภายในสไลด์บาร์ที่ปรากฏทางด้านขวาของเดสก์ทอปจะสามารถติดตั้งโปรแกรมยูทิลิตีขนาดเล็กที่เรียกว่า Gadget ได้มากมาย โดยเพื่อนๆ สามารถเพิ่ม Gadget เข้าไปในสไลด์บาร์ได้ด้วยการคลิ้กขวาบนพื้นที่ของสไลด์บาร์แล้วเลือกคำสั่ง Add Gadgets นอกจากนี้ยังมี Gadgets ไว้คอยบริการผู้ใช้มากมายที่ Windows Live Gallery อีกด้วย โดยคลิ้ก Get More Gadgets Online ซึ่งขณะเขียนบทความอยู่นี้ นายเกาเหลาได้เข้าไปเยี่ยมชมไซต์ดังกล่าว ปรากฏว่า มันมี Gadgets ให้ดาวน์โหลดไปใช้งานฟรีๆ ถึง 1,355 ตัวเข้าไปแล้ว โดยเพื่อนๆ สามารถใช้ Gadgets เหล่านี้ได้ด้วยการคลิ้กปุ่ม Download เพื่อติดตั้งเข้าไปในสไลด์บาร์ครับ สำหรับ Gadgets ที่นายเกาเหลาใช้อยู่ก็จะมี ข่าวเด็ดเจ็ดสี และ RSS Feed Reader ครับ อะแฮ่มลืมบอกวิธีปิด Sidebar ง่ายนิดเดียวครับ แค่กดคลิ้กขวา แล้วเลือกคำสั่ง Close Sidebar เพียงแค่นี้ เพื่อนๆ ก็จะได้พื้นที่เดสก์ทอปกลับคืนมาแว้ว...
ขอบคุณทิปจาก คอมพิวเตอร์ทูเดย์

วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

3G ประเทศไทยเริ่มใช้ 3 ธันวาคม 2009 นี้!

ผู้ให้บริการ 3G ในลักษณะ Virtual Operator หรือ MVNO ในประเทศไทยที่จะให้บริการบนเครือข่ายของ TOT ที่จะเปิดตัวในวันที่ 3 ธันวาคมนี้มีใครบ้าง แล้วได้ข้อมูลมาตามนี้ครับ โดยผู้ให้บริการ MVNO บนเครือข่าย 3G ของ TOT นั้นจะมีทั้งหมดด้วยกันห้าราย ได้แก่ Loxley, Samart I-Mobile, 365 Communications, IEC International และ M Consultant Corporation ครับ โดยทั้งหมดนี้คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ โดยทั้งหมดนี้จะชูเรื่องราคาเป็นสิ่งสำคัญ โดยจากที่มานั้นได้พูดไว้ว่าราคาคาดว่าจะถูกกว่าเครือข่าย 2G ทั้งหมดกว่า 10 เท่า เนื่องจากความสามารถในการใช้แบนด์วิธที่สูงกว่า

ในขณะเดียวกัน ทาง TOT เองนั้นก็ไม่ได้เปิดเผยโควตาจำนวนหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้จัดสรรให้กับผู้ให้ บริการ MVNO ทั้งหลาย แต่ได้สงวน 20% ของจำนวนหมายเลขทั้งหมดให้กับบริการ 3G ที่บริษัทจะดำเนินการเองในอนาคต สำหรับเครือข่าย 3G ของ TOT นั้นสามารถให้บริการโทรศัพท์ 3G ได้กว่าห้าแสนหมายเลข โดยในส่วนของ Loxley นั้น ตามที่ได้เสนอแบบแผนธุรกิจมา บริษัทจะให้บริการ MVNO ภายใต้แบรนด์ Season สำหรับบริการเสียงและแบรนด์ I-Kool สำหรับบริการข้อมูล น่าสนใจเหมือนกันครับ สำหรับชาวกรุงเทพ ในอนาคตอันใกล้คงมีแบรนด์ 3G ให้เลือกกันมากมายเลยทีเดียว

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ภาพถ่ายเบลอๆ กล้องเอ๋อ หรือเจ้าของ ??

ผู้ใช้บางคนที่อาจจะไม่เคยใช้กล้องถ่ายรูปมาก่อน โดยเฉพาะกล้องดิจิตอล พอคนขายบอกว่า กล้องดิจิตอลที่ซื้อไปใช้ง่ายมาก เปิดโหมดถ่ายภาพ เลือกมุมสวยที่ต้องการ แล้วก็กดชัตเตอร์ เพียงแค่นี้ก็ได้ภาพที่มีแสงสีสวยงาม คมชัดจับใจแล้ว... แต่เอาเข้าจริงๆ ปรากฏว่า ถ่ายออกมาแล้วเบลอทุกภาพ นี่เป็นประสบการณ์ตรงของผู้ใช้มือใหม่คนหนึ่งที่บ่นกระปอดกระแปดให้ฟัง... และเช่นเคย ปัญหา Human Error มักจะอยู่ในอันดับต้นๆ ของผู้ใช้มือใหม่...ซึ่งรวมถึงประสบการณ์ในการใช้กล้องครั้งแรกของนายเกาเหลาด้วยเช่นกัน :)

ผู้ใช้คนนี้เล่าให้ฟังว่า ภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลสุดหรูของเขา กี่รูปๆ ออกมาเบลอหมด ไม่เข้าใจว่า ทำไม ? พูดไม่พูดเปล่า หยิบกล้องมาอวด แล้วเปิดให้ดูภาพที่ถ่ายและเก็บไว้ในหน่วยความจำที่อยู่ในกล้อง ซึ่งมันก็เบลอทุกภาพจริงๆ ดูที่เลนส์หน้ากล้องก็ชัดปิ้งนิ๊งเสียกระไร วิวไฟน์เดอร์ก็สะอาด บนจอแอลซีดีก็ชัดนิ้ง เรียกว่า ทุกอย่างพร้อม แล้วมันผิดพลาดที่อะไรล่ะ ผู้ใช้คนนี้ยังเล่าให้ฟังว่า เคยเล่นกล้องฟิล์มแต่ไม่เคยเจอปัญหานี้เลย ว่าแล้วก็เลยให้เขาลองถ่ายรูปนายเกาเหลาดูหน่อย ปรากฏว่า เบลออีกแล้วครับทั่น.น.น...แต่นั่นทำให้นายเกาเหลาพบสาเหตุของภาพถ่ายที่เบลอทั้งหมด

ปกติกล้องถ่ายรูปดิจิตอล เมื่อกดปุ่มชัตเตอร์ มันจะมีการหน่วงเวลา (lag time) เล็กน้อยก่อนที่ภาพจะถูกบันทึกเข้าไป ซึ่งหากช่วงเวลาดังกล่าวเกิดมีการขยับกล้องขึ้นมา ปัญหาภาพเบลอ หรือภาพไหวย่อมเกิดขึ้นได้ และผู้ใช้คนนี้ คงติดนิสัยกล้องฟิล์มมา แบบว่า ลั่นชัตเตอร์ปุ๊บก็ขยับกล้องทันทีไม่ดูดำดูดีอะไรเลย นายเกาเหลาได้ยินเสียงชัตเตอร์หลังจากที่เขาขยับกล้องแล้วเสียด้วยซ้ำ อย่างนี้ภาพจะไม่เบลอได้อย่างไร นายเกาเหลาแนะนำให้เขากดปุ่ม Shutter ลงครึ่งหนึ่งก่อน เพื่อเลือกมุมภาพที่ต้องการ เมื่อพร้อมแล้ว ค่อยกดปุ่มอีกครึ่งหนึ่งให้สุด นอกจากนี้ การถ่ายภาพในที่แสงน้อยจะทำให้เกิดการหน่วงมากขึ้นอีกด้วย เพราะฉะนั้นควรเลือกถ่ายภาพในที่มีแสงสว่างมากสักหน่อย และถ้าหากถ่ายภาพวัตถุที่มีการเคลื่อนไหว ก็ควรเลือกโหมด Sports อีกอย่างหนึ่งคือ ต้องแน่ใจว่า ท่าทางในการจับกล้องมั่นคงดีแล้ว แต่ถ้าไม่ถนัดอาจหาขาตั้งกล้องมาช่วยก็ได้ และเพื่อความมั่นใจอาจจะใช้รีโมตชัตเตอร์ เพราะเวลาที่คุณกดชัตเตอร์ด้วยตนเองอาจทำให้กล้องสั่นได้ ถ้าเป็นคนมือหนักนะครับ หลังจากที่นายเกาเหลาลองถ่ายดูบ้าง (แบบใจเย็น) ก็ปรากฏว่า ภาพที่ออกมาชัดปิ๊งนิ้งเหลือเกิน...ตกลง...กล้อง หรือคนที่เออร์เรอร์กันแน่ครับเนี่ย...

ขอบคุณทิปจาก หนังสือคอมพิวเตอร์ทูเดย์