วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552

ข้อควรจำในการที่จะโดน HACK

1. ใช้เน็ตที่เป็นแบบ Unlimited หรือเป็นแบบรายชั่วโมง ซึ่งเน็ตประเภทนี้ ง่ายต่อการถูกเจาะ และใครๆ ก็เดินไปซื้อมาเล่นได้ง่ายๆ
2. ไม่ค่อยสนใจเรียนรู้เรื่องความปลอดภัย คิดแต่ว่า ถ้าไม่เกิดปัญหา ก็ไม่สนอะไร และไม่ต้องคิดหาทางป้องกันหรือแก้ไข ต้องหมั่นหาเครื่องมือมาป้องกันหน่อย เช่นการใช้ Browser ท่อง Internet และใช้ Firewall
3. ช่วงเวลาที่เล่นเกมส์ มักจะยาวนาน ซึ่งเหมาะแก่การเจาะเป็นยิ่งนัก "ทางโล่ง ไอ้เสือลุย" หมั่นตรวจสอบการเชื่อมต่อมั่งก็ดีนะ (หัวข้อ Netstat)
4. ไม่ค่อยสังเกตุ หรือขาดความรู้เกี่ยวกับระบบ ในการเช็คการเชื่อมต่อต่างๆ แม้เกมส์หรือ Web ที่เปิดมันจะ Lacking (กระตุก) อยู่ก็ตาม
5. เที่ยวไป Login Mail หรือ Account ต่างๆ ในร้าน Internet ที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ หรือน่าเชื่อถือก็ตาม คุณอาจจะโดนโปรแกรม Keyloger ดักจับการพิมพ์ Username และ Password เอาไว้ หรือไม่ก็โดนโปรแกรม Sniffer
• การตั้ง Password ด้วยคำที่ง่ายๆเกินไป เช่น "aaaa" , "abcd" , "love" อย่างนี้โดนใจ Hacker เจงๆ
• คำถามกันลืม Password ต่างๆ ก็ควรที่จะใส่ใจพอๆกับ Password ที่คุณได้ตั้งเอาไว้ เพราะ ส่วนใหญ่แล้วเมล์ที่โดนขโมยมักจะได้กันง่ายๆก็อีแบบนี้แหละ
• มีโปรแกรมอีกหลายตัว สามารถค้นหา User และ Password ต่างที่พิมพ์ใน IE ได้อย่างง่ายดาย อย่างเช่นโปรแกรม CAIN
6. การกรอกข้อมูลในการสมัครสมาชิก ในเว็บต่างๆ ควรใช้วิจารณญาณให้ดี เพราะมี Website บางแห่งจะหลอกให้คุณกรอกข้อมูลส่วนตัว โดยเฉพาะเลขบัตร Cradit Cart , Mail+Password Mail , เลขบัตรประชาชน เพื่อแลกกับสิทธิพิเศษบางอย่างที่ Web เค้าอวดอ้าง
• และก็ยังมีกรณีที่สร้าง Website ขึ้นมาแล้วทำช่องบริการให้ Login Mail ผ่านไปยัง Web อื่นได้ อย่าหลงไปเชื่อเด็ดขาด เพราะเมล์ของคุณที่ Login นั้นจะไม่ใช่เมล์คุณอีกต่อไป
• การสมัครสมาชิกในที่ต่างๆ ถ้าคุณหลีกเลี่ยงที่จะไม่ใช้ข้อมูลส่วนตัวจริงๆ ได้ ให้โม้ไปเลยครับ ขี้จุ๊ เจงๆโลกไซเบอร์
ข้อมูลจาก http://groups.google.com/group/ok_click_ok

Error Code

Error 602 : The modem is being used by another Dial-Up Networking connection or another program.
สาเหตุ : โมเด็มกำลังถูกใช้งานจากโปรแกรมอื่นอยู่ เช่น โปรแกรมรับ - ส่งโทรสาร หรืออื่นๆ
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการยกเลิกการใช้โปรแกรมอื่นที่กำลังใช้งานโมเด็ม
สาเหตุ : สัญญาณระหว่างโมเด็มกับคอมพิวเตอร์ขัดข้องหรือสัญญาณโมเด็มค้าง
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการรีบู๊ตเครื่องคอมพิวเตอร์

Error 629 : You have been disconnected from the computer you dialed.
สาเหตุ : พิมพ์รหัสใช้งานผิด หรือจำนวนชั่วโมงการใช้งานโมเด็มหมด
วิธีการแก้ไข : ลองพิมพ์รหัสใช้งานดูอีกที หรือตรวจสอบชั่วโมงการใช้งานอินเตอร์เน็ต
สาเหตุ : สัญญาณระหว่างโมเด็มกับคอมพิวเตอร์ขัดข้องหรือสัญญาณโมเด็มค้าง
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการรีบู๊ตเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่
สาเหตุ : ตั้งค่าความเร็วสูงสุด (Maximum speed) สูงเกินไป
วิธีการแก้ไข : ทำการตั้งค่า Maximum speed ของโมเด็มให้เหมาะสม เช่น ความเร็วของโมเด็ม 56 K ควรตั้งค่าไว้ไม่เกิน 115200 โดยกำหนดได้ที่ Modem Configuration
สาเหตุ : ตั้งความเร็วของโมเด็มช้าเกินไป
วิธีการแก้ไข : ทำการตั้งค่า Maximum speed ให้เร็วขึ้น

Error 630 : The computer is not receiving a response from the modem.
สาเหตุ : โมเด็มกำลังถูกใช้งานจากโปรแกรมอื่นอยู่
วิธีการแก้ไข : ให้คุณยกเลิกการใช้โปรแกรมอื่นที่กำลังใช้งานโมเด็ม
สาเหตุ : สัญญาณระหว่างโมเด็มกับคอมพิวเตอร์ขัดข้องหรือสัญญาณโมเด็มค้าง
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการรีบู๊ตเครื่องคอมพิวเตอร์
สาเหตุ : ถ้าใช้โมเด็มแบบภายนอกอาจจะเกิดจากไม่ได้เปิดโมเด็ม หรือต่อสายไม่ครบ
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการตรวจสอบดูว่าได้เปิดโมเด็มหรือยัง รวมทั้งตรวจสอบปลั๊กและสายต่างๆ ว่าต่อเรียบร้อยดีหรือไม่
สาเหตุ : โมเด็มเสีย
วิธีการแก้ไข : นำไปให้ช่างตรวจดูู อิอิ
สาเหตุ : เกิดจากโมเด็มไม่ทำงาน หรือไม่ตอบสนอง
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการรีบู๊ตเครื่องคอมพิวเตอร์
สาเหตุ : เกิดจากตั้งค่าพอร์ตของโมเด็มไม่ถูกต้อง
วิธีการแก้ไข : ตรวจสอบพอร์ตของโมเด็มดูว่าถูกต้องหรือไม่ โดยทั่วไปโมเด็มแบบติดตั้งภายในจะใช้พอร์ต COM3 หรือ COM4 ซึ่งเป็นพอร์ต COM เสมือน (Virtual COM Port)

Error 635 : Cannot establish the Dial-Up Networking session.
สาเหตุ : พิมพ์รหัสใช้งานผิด หรือจำนวนชั่วโมงการใช้งานโมเด็มหมด
วิธีการแก้ไข : ลองพิมพ์รหัสใช้งานดูอีกที หรือตรวจสอบชั่วโมงการใช้งานอินเตอร์เน็ต
สาเหตุ : มีผู้อื่นกำลังใช้งานรหัสนี้อยู่
วิธีการแก้ไข : ให้คุณตรวจสอบดูว่ามีใครกำลังใช้งานรหัสนี้อยู่หรือเปล่า
สาเหตุ : สัญญาณระหว่างโมเด็มกับคอมพิวเตอร์ขัดข้องหรือสัญญาณโมเด็มค้าง
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการรีบู๊ตเครื่องคอมพิวเตอร์
สาเหตุ : ลงไดรเวอร์โมเด็มไม่ถูกต้องหรือไม่ได้ลงไดรเวอร์เวอร์ชั่นล่าสุด
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการลงไดรเวอร์โมเด็มให้ถูกต้องและควรเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดด้วย
สาเหตุ : เกิดจากตัวเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมีปัญหา
วิธีการแก้ไข : ให้คุณลองลบตัวเชื่อมต่อเดิมทิ้งไปและสร้างอันใหม่ จากนั้นลองต่ออินเตอร์เน็ตดูอีกครั้ง

Error 645 : Internal Authentication Error
สาเหตุ : เกิดจากความผิดพลาดของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโมเด็ม
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการรีบู๊ตเครื่องคอมพิวเตอร์
สาเหตุ : เกิดจากตัวเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมีปัญหา
วิธีการแก้ไข : ให้คุณลบตัวเชื่อมต่อเดิมทิ้งไปและสร้างอันใหม่ จากนั้นลองต่ออินเตอร์เน็ตดูอีกครั้ง

Error 650 : The computer you're dialing into does not respond to a network request.
Error 650 : Modem not responding
สาเหตุ : เกิดจากความผิดพลาดของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโมเด็ม
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการรีบู๊ตเครื่องคอมพิวเตอร์ ( กรณีที่เป็นโมเด็มแบบภายนอก ให้ปิดโมเด็มโดยให้อยู่ในสถานะ off ถ้าไม่มีปุ่มเปิด - ปิด ให้ถอดปลั๊กไฟออก และลองเชื่อมต่ออีกครั้ง )
สาเหตุ : เกิดจากสัญญาณรบกวนในสายโทรศัพท์
วิธีการแก้ไข : ให้คุณลองถอดเครื่องโทรศัพท์หรือโทรสารที่ต่อพ่วงออก
สาเหตุ : เกิดจากตัวเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมีปัญหา
วิธีการแก้ไข : ให้คุณลบตัวเชื่อมต่อเดิมทิ้งไปและสร้างอันใหม่ จากนั้นลองต่ออินเตอร์เน็ตดูอีกครั้ง
สาเหตุ : ระบบปฏิบัติการมีการเรียกใช้ RNAAPP ซึ่งต้องมีการเปิดใช้พอร์ตของโมเด็มทำให้โมเด็มเกิดความผิดพลาดและไม่ตอบสนอง
วิธีการแก้ไข : กดปุ่ม และเลือกปิดโปรแกรม RNAAPP จากนั้นลองต่อใหม่อีกครั้ง

Error 666 : Device not Ready , Your modem (or other connecting devices) is not functioning.สาเหตุ : เกิดจากความผิดพลาดของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโมเด็ม
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการรีบู๊ตเครื่องคอมพิวเตอร์
สาเหตุ : ลงไดรเวอร์โมเด็มไม่ถูกต้องหรือไม่ได้ลงไดรเวอร์เวอร์ชั่นล่าสุด
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการลงไดรเวอร์โมเด็มให้ถูกต้องและควรเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดด้วย

Error 676 : The line is busy.
สาเหตุ : เกิดจากความผิดพลาดของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโมเด็ม
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการรีบู๊ตเครื่องคอมพิวเตอร์
สาเหตุ : เกิดจากหมายเลขที่เชื่อมต่อเข้า ไอเอสพี คู่สายเต็มหมด
วิธีการแก้ไข : ถ้า ไอเอสพี ที่เราใช้สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้หลายเบอร์ ให้ลองเปลี่ยนเบอร์ที่ใช้เชื่อมต่อเป็นเบอร์อื่น หรือถ้ามีเบอร์เดียวก็ให้กำหนดให้ตัวเชื่อมต่อเองแบบอัตโนมัติ
สาเหตุ : หมายเลขโทรศัพท์ถูกระงับหรือใช้งานไม่ได้ หรือมีปัญหาที่ชุมสายโทรศัพท์
วิธีการแก้ไข : ให้คุณตรวจสอบให้แน่ใจว่าหมายเลขโทรศัพท์นั้นยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ
สาเหตุ : กรอกหมายเลขโทรศัพท์ไม่ถูกต้อง
วิธีการแก้ไข : ให้คุณลองตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ดูว่าถูกต้องหรือไม่

Error 678 : The computer you are dialing into is not answering.
Error 678 : There is no answer.
สาเหตุ : อาจเกิดจากปัญหาของเครื่องคอมพิวเตอร์ต้นทาง (Server)
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการตรวจสอบสายโทรศัพท์ดูว่ามีสัญญาณตามปกติหรือไม่
สาเหตุ : ลงไดรเวอร์โมเด็มไม่ถูกต้องหรือไม่ได้ลงไดรเวอร์เวอร์ชั่นล่าสุด โมเด็มตรวจสอบได้ว่ามีการหมุนโทรศัพท์ผิดหมายเลข
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการลงไดรเวอร์โมเด็มให้ถูกต้องและควรเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดด้วย

Error 691 : The computer you're dialing into cannot establish a Dial - Up Networking connection.Error
691 : Access denied because user name and/or password is valid on the domain.
สาเหตุ : พิมพ์รหัสใช้งานผิด หรือจำนวนชั่วโมงการใช้งานโมเด็มหมด
วิธีการแก้ไข : ลองพิมพ์รหัสใช้งานดูอีกที หรือตรวจสอบชั่วโมงการใช้งานอินเตอร์เน็ต
สาเหตุ : มีผู้อื่นกำลังใช้งานรหัสนี้อยู่
วิธีการแก้ไข : ให้คุณตรวจสอบดูว่ามีใครกำลังใช้งานรหัสนี้อยู่หรือเปล่า
สาเหตุ : กรอกหมายเลขโทรศัพท์ไม่ถูกต้อง
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ดูว่าถูกต้องหรือไม่
สาเหตุ : สัญญาณระหว่างโมเด็มกับคอมพิวเตอร์ขัดข้องหรือสัญญาณโมเด็มค้าง
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการรีบู๊ตเครื่องคอมพิวเตอร์
สาเหตุ : Access Server มีปัญหา
วิธีการแก้ไข : ให้คุณติอต่อ ไอเอสพี เพื่อตรวจสอบว่ามีปัญหาจาก ไอเอสพี หรือไม่

Error 692 : Hardware failure in port or attached devices.
สาเหตุ : เกิดจากโมเด็มไม่ทำงานหรือไม่ตอบสนอง
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการรีบู๊ตเครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งปิดโมเด็มด้วย
สาเหตุ : เกิดจากตั้งค่าพอร์ตของโมเด็มไม่ถูกต้อง
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการตรวจสอบพอร์ตของโมเด็มดูว่าถูกต้องหรือไม่

Error 718 : The computer you're dialing into cannot establish a Dial - Up Networking connection.
Error 718 : PPP time out.
สาเหตุ : เกิดจากสัญญาณรบกวนในสายโทรศัพท์
วิธีการแก้ไข : ให้คุณลองถอดเครื่องโทรศัพท์หรือโทรสารที่ต่อพ่วงออก
สาเหตุ : หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้เชื่อมต่อไม่ถูกต้อง
วิธีการแก้ไข : ให้คุณตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ดูว่าถูกต้องหรือไม่
สาเหตุ : เกิดจากเครื่องเซิร์ฟเวอร์ปลายทางไม่ตอบสนอง หรือสัญญาณไม่ดี
วิธีการแก้ไข : ให้คุณลองปิดเครื่องคอมพิวเตอร์และเปิดใหม่ และตรวจสอบรหัสการใช้งานดูว่าถูกต้องหรือไม่

Error 720 : Dial - Up Networking could not negotiate a compatible set of network protocols you specified in the Server Type settings.
Error 720 : No PPP control protocols configured.
สาเหตุ : เกิดจากสัญญาณรบกวนในสายโทรศัพท์
วิธีการแก้ไข : ให้คุณลองถอดเครื่องโทรศัพท์หรือโทรสารที่ต่อพ่วงออก
สาเหตุ : สัญญาณระหว่างโมเด็มกับคอมพิวเตอร์ขัดข้องหรือสัญญาณโมเด็มค้าง
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการรีบู๊ตเครื่องคอมพิวเตอร์
สาเหตุ : หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้เชื่อมต่อไม่ถูกต้อง
วิธีการแก้ไข : ให้คุณตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ดูว่าถูกต้องหรือไม่
สาเหตุ : ยังไม่ได้ตั้งค่าโปรโตคอล PPP
วิธีการแก้ไข : ให้คุณทำการติดตั้งโปรโตคอล PPP ตรง Networking ใน Properties ของตัวเชื่อมต่อ

ลีมรหัสผ่าน เข้า Windows ไม่ได้มาทางนี้

มีหลาย ๆ ท่านที่ตั้งรหัสผ่านเข้า Windows ไว้แต่ดันจำไม่ได้ วันนี้ผมมีวิธีการ ที่สามารถทำให้คุณเข้าไปใช้งาน Windows ได้ตามปกติ ครับ แต่วิธีนี้ได้แค่ Windows NT , Windows 2000 , Windows XP เท่านั้นนะครับ เรามาเริ่มกันเลยอันดับแรกคุณต้องไปดาวน์โหลดไฟล์ สำหรับการสร้างแผ่นบู๊ต ที่เว็บhttp://home.eunet.no/~pnordahl/ntpasswd/bootdisk.html (คุณสามารถเลือกได้ ว่าจะทำแผ่นบู๊ตโดยใช้ แผ่นดิสก์ หรือซีดี) เมื่อทำแผ่นบู๊ตเสร็จแล้วก็ให้นำแผ่น ที่ได้ไปบู๊ตเครื่องใหม่ แต่คุณต้องเข้าไปเซ็ตไบออสว่าให้บู๊ตจาก แผ่นดิสก์ หรือซีดี ก่อนด้วยนะครับ (อันนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณทำแผ่นบู๊ตจาก แผ่นดิสก์ หรือซีดี) ในระหว่างบู๊ต คุณจะเห็นแต่ตัวหนังสือเต็มไปหมด นั่นเป็นเพราะว่าใช้ระบบการบู๊ตของลินุ๊กนั่นเอง ให้คุณทำตามที่โปรแกรมคอยแนะนำไปเรื่อย ๆ ซึ่งท้ายสุดก็จะมีข้อมูลที่เป็นรหัสผ่าน ของคุณปรากฎ ให้เห็น

แค่คลิก...ไฟล์ที่ถูกลบก็กลับคืนมาแล้ว

คงไม่มีใครปฏิเสธนะครับว่า ไม่เคยพลาดลบไฟล์ออกไปจากเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งมันเป็นประสบการณ์น่าเศร้าที่ทำให้เราจดจำไปอีกนาน บางครั้งคุณอาจโชคดีที่มันยังตกค้างอยู่ในถังขยะ Recycle Bin แต่ถ้าคุณโชคร้ายที่พลาดซ้ำสองด้วยการสั่ง Empty Recycle Bin หรือคอมพ์ที่ใช้ตั้งค่าให้ลบทันที อย่าเพิ่งหมดความหวังครับ เพราะคอลัมน์ดาวน์โหลดวันนี้มีฟรีแวร์ที่ช่วยกู้ไฟล์ที่ลบไปแล้วกลับคืนมาได้ครับ
ดังที่คุณๆ อาจจะทราบกันมาบ้างแล้วว่า เมื่อคุณลบไฟล์หนึ่งๆ ในระบบปฏิบัติการ Windows สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็คือ ส่วนติดต่อของไฟล์กับไดเร็กทอรีนั้นๆ ถูกลบออกไป และพื้นที่ที่ถูกครอบครองโดยไฟล์ดังกล่าวบนฮาร์ดดิสก์จะถูกกำกับว่าเป็นพื้นที่ “ว่าง” จนกระทั่งพื้นที่ดังกล่าวถูกเขียนทับด้วยข้อมูลใหม่ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ทันทีหลังจากที่มันถูกลบ (บางไฟล์ลบไปเป็นอาทิตย์ แต่ก็ยังสามารถกู้กลับมาได้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้ถูกเขียนทับไปนั่นเอง) หากคุณโชคดีไฟล์ที่ถูกลบไปยังไม่ถูกเขียนทับ คุณสามารถกู้คืนกลับมาได้อย่างง่ายดายด้วยยูทิลิตี้แจกฟรีชื่อว่า Freeundelete

ในขั้นตอนของการทำงาน โปรแกรมจะสแกนคอมพิวเตอร์ จากนั้นจะแจ้งให้คุณทราบอย่างรวดเร็วว่า มีไฟล์อะไรบ้างที่ถูกลบทิ้งไป และโอกาสที่จะกู้กลับคืนมาได้ ซึ่ง Freeundelete ไม่เพียงแต่ใช้งานง่าย และปลอดภัย เท่านั้น แต่มันยังมีขนาดเล็กอีกด้วย (1MB) ดาวน์โหลดมาติดตั้งไว้ใช้ยามจำเป็น เผื่อว่าวันหนึ่ง คุณจะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลังเมื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
ข่าวจาก ARiP

มือใหม่ข้องใจการทำแบ็คอัพ

ถาม: บ่อยครั้งที่มือใหม่อย่างผมจะได้ยินมาว่า การทำสำรอง (backup) ข้อมูลสำคัญเป็นเรื่องที่จำเป็น ทั้งนี้เพื่อเก็บรักษาข้อมูลให้คงอยู่กับเรา เมื่อยามที่ระบบมีปัญหา คำถามก็คือ ตกลงแล้วการสำรองข้อมูล มันหมายถึงการที่เราต้องทำอะไรบ้าง และทำได้อย่างไรครับ?

ตอบ: สำหรับความหมายที่ง่ายที่สุดเลย การทำสำรองข้อมูลก็คือ การก็อปปี้ไฟล์คอมพิวเตอร์ อย่างเช่น ไฟล์ภาพดิจิตอล หรือไฟล์เพลงเอ็มพีสาม ลงบนสื่ออื่นที่ไม่ใช่ที่เดิมที่เป็นที่อยู่ของไฟล์นั้น ดังนั้น การสำรองข้อมูลอย่างง่ายๆ ก็เช่น การก็อปปี้ไฟล์ลงบนธัมบ์ไดรฟ์ หรือแผ่นซีดีนั่นเอง เนื่องจากมันมีความเสี่ยงที่ว่า คอมพิวเตอร์ของคุณอาจมีการทำงานผิดพลาดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลาที่คุณพยายามติดตั้งซอฟต์แวร์ หรือฮาร์ดแวร์ใหม่เข้าไปในระบบ การทำสำรองข้อมูลไฟล์สำคัญก่อนกระทำการดังกล่าวจึงเป็นเรื่องสมควรกระทำอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นแล้ว คุณอาจจะต้องสูญเสียไฟล์สำคัญเหล่านั้นไป ในกรณีที่คุณมีไฟล์สำคัญๆ เพียงไม่กี่ไฟล์ การก็อปปี้ไฟล์เหล่านั้นลงในแฟลชไดรฟ์ยูเอสบี หรือเขียนลงแผ่นซีดีก็น่าจะเป็นการทำแบ็คอัพที่เพียงพอแล้ว แต่ในทางปฏิบัติ ผู้ใช้นิยมจะมองหาโปรแกรมสำรองข้อมูลอย่างเช่น BackupMyPC หรือ Nero Backup เพื่อให้มันจัดการแบ็คอัพให้โดยอัตโนมัติ แม้ความเสี่ยงที่ไฟล์ข้อมูลในคอมพิวเตอร์จะเสียหายค่อนข้างต่ำมากก็ตาม แต่มันก็มีโอกาสที่ฮาร์ดดิสก์จะเกิดความเสียหาย หรือเสื่อมสภาพได้เหมือนกัน โดยเฉพาะถ้าหากมันเกิดความเสียหายขึ้นกับบริเวณพื้นที่ที่จัดเก็บไฟล์สำคัญๆ ของคุณแล้วล่ะก็ การทำสำรองไฟล์ไว้น่าจะเป็นไอเดียที่ดีนะครับ

ทิปพิมพ์งานจากยูทิลิตี้เล็กๆ แต่เก่งเกินตัว

การหาโปรแรม ให้เข้า www.google.com แล้ว Search คำว่า Download (ชื่อโปรแกรม) ตัวอย่างเช่น download Inksaver 2.0 เป็นต้น
1. Inksaver 2.0 หมึกเท่าเดิม แต่พิมพ์เพิ่มได้เป็นร้อยหน้าโปรแกรม Inksaver คือโปรแกรมที่ช่วยให้คุณประหยัดหมึกได้อย่างเห็นผล ขอแนะนำให้ใช้โปรแกรมนี้ ควบคู่ไปกับงานพิมพ์เอกสาร เพราะคุณสามารถใช้โปรแกรมนี้ไปปรับแต่งความเข้มหรืออ่อนของตัวหนังสือได้อย่างยืดหยุ่นมากกว่าการปรับจากโปรไฟล์ของเครื่องพิมพ์เองด้วยซ้ำ และทุกครั้งที่ปรับเปอร์เซน์ความเข้มของงานพิมพ์ ตัวโปรแกรมจะคำนวณให้คุณได้เห็นจะๆ ในทันทีว่า คุณจะประหยัดหมึกไปได้กี่เปอร์เซนต์ และประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับหมึกแต่ละตลับไปได้อีกกี่บาทตัวโปรแกรมพัฒนาอยู่ตลอด ล่าสุดถึงเวอร์ชัน 2.0 แล้วซึ่งเจ้าตัวโปรแกรมนี้ก็รู้จักเครื่องพิมพ์อิงก์เจ็ตในตลาดเกือบทุกรุ่นเลยทีเดียว
2. iCabon จับพรินเตอร์กับสแกนเนอร์ มาทำเป็นเครื่องถ่ายเอกสารเสียเลยโปรแกรมขนาดจิ๋วที่จะทำให้ printer + scanner = copier ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องมีทั้งสแกนเนอร์ และพรินเตอร์ที่ติดตั้งพร้อมใช้งานแล้วอย่างละ 1 ตัว เป็นอย่างน้อย วิธีใช้ก็แสนง่ายเมื่อคุณลงโปรแกรมเสร็จแล้ว โปรแกรมจะตั้งค่าสแกนเนอร์และพรินเตอร์ให้เอง งานของคุณก็แค่ตั้งค่าต่างๆ ได้แก่ จำนวนสำเนาที่ต้องการ (Number of copies) ขนาดย่อ- ขยาย (Zoom) ค่าความเข้มของสำเนา ( contrast) และรูปแบบการสำเนาสีหรือขาวดำ (Type of copy) ส่วนตัวเลือก Quality ในเวอร์ชันทดลองนี้ยังปรับค่าไม่ได้ เมื่อตั้งค่าต่างๆ แล้ว กดปุ่มขนาดใหญ่ ด้านซ้ายเป็นอันเสร็จครับโปรแกรมนี้มีขนาดเล็กใช้งานง่ายเหมาะสำหรับการสร้างเครื่องถ่ายเอกสารใช้เอง คุณภาพที่ออกมาก็ใกล้เคียงกับร้านถ่ายเอกสารทีเดียว เหมาะสำหรับใครที่มีทั้งพรินเตอร์และสแกนเนอร์อยู่แล้ว จะได้เอามาใช้ร่วมกันให้คุ้มค่ามากขึ้นนะครับ
3. InkMonitor จับตาดูหมึกให้ดีเป็นโปรแกรมที่จะวัดปริมาณหมึกที่เหลืออยู่ และยังสามารถเรียกดูรายการพิมพ์ต่างๆได้ เมื่อคุณติดตั้งเสร็จ โปรแกรมจะปรากฏเป็นไอคอนอยู่ที่ system tray บริเวณเดียวกับนาฬิกาของ windows คุณจะต้องตั้งค่า 2 อย่าง ได้แก่รุ่นของเครื่องพิมพ์ ( printer ) และรุ่นของตลับหมึก ( Cartridge) ทำได้โดยคลิ้กขวาที่ไอคอน InkMonitor แล้วเลือก Program Options…จากนั้นก็ตั้งค่ารุ่นเครื่องพิมพ์และตลับหมึก แล้วคุณก็ลืมมันไปได้เลย เพราะโปรแกรมจะรันเองโดยอัตโนมัติ และจะแสดงปริมาณหมึกทุกครั้งที่มีการสั่งพิมพ์ นอกจากนี้ยังสามารถเรียกดูรายการพิมพ์ต่างๆ ที่เคยสั่งพิมพ์ได้อีกด้วย โดยคลิ้กขวาที่ไอคอน InkMonitor แล้วเลือก Printer Details…การคำนวณปริมาณหมึกที่ใช้ไปของโปรแกรมนี้ค่อนข้างแม่นยำเพราะโปรแกรมสามารถระบุได้ถึงรุ่นเครื่องพิมพ์และรุ่นของตลับหมึกนอกจากนี้ไม่ว่าคุณตั้งค่าการพิมพ์ไว้อย่างไรตัวโปรแกรมก็จะนำค่าเหล่านั้นมาใช้คำนวณด้วย ดังนั้นเมื่อคุณเปลี่ยนตลับหมึกใหม่คุณควรเข้าไปตั้งค่าตลับหมึกใน InkMonitor ใหม่ทุกครั้ง
4. Photo Paper Saver พิมพ์ภาพสวยๆ แบบคุ้มสุดๆถ้าคุณลงทุนซื้อกระดาษคุณภาพสูงมาเพื่อใช้พิมพ์ภาพถ่าย คุณคงอยากจะใช้ทุกๆ ตารางนิ้วของกระดาษให้คุ้มค่า โปรแกรมนี้ช่วยให้คุณสามารถจัดรูปถ่ายของคุณลงให้เต็มพื้นที่หน้ากระดาษได้อย่างง่ายดายเริ่มต้นเปิดโปรแกรมขึ้นมาคุณก็จัดการเลือกว่าคุณจะพิมพ์ภาพใดบ้าง การใช้งานก็ง่ายๆ เพราะหน้าตาเหมือนกับ Explorer ของวินโดวส์ เลือกเสร็จแล้วพอถึงหน้าต่าง Select Prints Sizes and Options ให้คุณกด Finish ได้เลยเพื่อเข้าสู่หน้าจอการทำงานด้านล่างของรูปด้านซ้ายจะแสดงภาพต่างๆ ที่คุณเลือกในรูปแบบ thumbnails ส่วนรูปที่แสดงอยู่คือรูปที่คุณเลือกรูปทางด้านขวามือเป็นรูปที่ขยายออกมา ในส่วนนี้มีไว้เพื่อตั้งขนาดของรูปและจำนวนที่จะพิมพ์ คุณเลือกขนาดได้ตามใจชอบแต่ถ้าขนาดที่มีอยู่คุณไม่พอใจสามารถเข้าไปตั้งค่าใหม่ได้ที่ Print Sizes->Manage Print Sizes ส่วนจำนวน copies ก็ตามต้องการเลยครับ การใช้โปรแกรมนี้ ตัวโปรแกรมจะพิมพ์ภาพขนาดเท่าต้นฉบับ 1 ภาพเสมอ สมมติเลือกขนาดเป็น 2.50 คูณ 3.50 และcopies เป็น2 แผ่น สิ่งที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์คือรูปขนาดเท่าต้นฉบับ1 ภาพ และขนาดที่เราเลือก 3 ภาพ อยู่บนกระดาษแผ่นเดียวกัน (ถ้าพื้นที่พอ) แต่คุณสามารถเรียกดู print preview ได้จาก เมนู File ครับ
5. PrintPunk พิมพ์เว็บเพจอย่างฉลาดเป็นโปรแกรมที่จะเพิ่มทูลบาร์เข้าไปที่หน้าต่างของ IE ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการพิมพ์หน้าเว็บเพจให้เก่งขึ้นใครที่เคยสั่งพิมพ์หน้าเว็บเพจบ่อยๆ น่าจะซึ้งถึงความยากลำบากเป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าคุณจะสั่งพิมพ์แบบไหน หน้าเว็บเพจก็ไม่เคยแสดงผลได้ถูกต้องบนกระดาษที่พิมพ์ออกมาเลยสักครั้ง แต่เมื่อใช้ PrintPunk แล้ว คุณสามารถพิมพ์เว็บเพจทั้งหน้าลงบนกระดาษแผ่นเดียวได้ง่าย โดยที่ไม่มีอะไรขาดหายไปอีกด้วยสั่งพิมพ์โดยการกดปุ่ม Print ปุ่ม Images กดเพื่อซ่อน/ แสดงรูปภาพบนหน้าเวบเพจนั้น (ถ้าเพื่อว่าคุณต้องการอ่านและพิมพ์เฉพาะข้อความ) ปุ่ม Shrink/Zoom ไว้เพื่อย่อขยายเว็บเพจถ้าตัวหนังสือเล็กหรือใหญ่เกินไป ส่วนปุ่ม Fit/Auto Fit ให้เพื่อปรับขนาดหน้าเวบให้พอดีกับหน้าจอ
6. inePrint ปรับแต่งงานพิมพ์ได้อย่างใจโปรแกรมนี้ควรมีติดเครื่องไว้เลยครับ เพราะด้วย FinePrint คุณสามารถพิมพ์เอกสารออกมาได้หลากหลายรูปแบบ และปรับแต่งได้มากกว่าที่ไดรเวอร์เครื่องพิมพ์จะทำได้ เช่น การพิมพ์ 16 หน้าลงในกระดาษ A4 เพียงแผ่นเดียว หรือการพิมพ์เพื่อทำเป็นหนังสือทำมือ การย่อ ขยาย การทำจดหมายข่าว หรือการใส่ลายน้ำให้กับเอกสาร เป็นต้น โปรแกรมนี้เหมาะมากถ้าใช้พิมพ์เอกสารที่มีหลายหน้า เพราะจะประหยัดกระดาษไปอีกเยอะเลยทีเดียววิธีการใช้งาน FinePrint นั้น ง่ายมาก เพราะหลังจากติดตั้ง FinePrint แล้วคุณจะได้เครื่องพิมพ์เพิ่มมาใหม่อีก 1 เครื่อง นั่นคือ FinePrint เวลาสั่งพิมพ์งาน คุณเลือกไปพิมพ์ออกที่ FinePrint แทนเครื่องพิมพ์ปกติ จากนั้นโปรแกรมจะป็อบอัพหน้าต่างปรับแต่งของ FinePrint ขึ้นมา หลังจากปรับจนพอในแล้วก็ค่อยสั่งพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์ปกติอีกทีครับ
7. PrintGhost พิมพ์เป็นภาพดีกว่า โปรแกรมนี้สามารถที่จะแปลงงานพิมพ์ของคุณให้เป็นภาพ ในฟอร์แมต TIFF,JPG หรือ BMP ได้ ไม่ว่างานพิมพ์นั้นคุณจะสร้างจากโปรแกรม เวิร์ด , เอ็กเซล, พาวเวอร์พอยนต์ หรือเอกสารแบบไหนก็ตาม ซึ่งสะดวกมาก เวลาที่คุณต้องส่งฟอร์มหรือเอกสารไปให้คนอื่นๆ เพราะแทนที่คุณจะต้องพิมพ์มันออกมา แล้วส่งแฟกซ์ หรือเอามาสแกนอีกครั้งให้เสียเวลา คุณก็สั่งพิมพ์หน้าเอกสารออกทาง PrintGhost แล้วส่งมันไปเป็นภาพเลย ถามว่า ทำไมไม่ส่งเอกสารที่เป็น .doc ออกไปเลยล่ะ ? เหตุผลก็เพราะ บางทีคนอื่นๆ อาจไม่ได้ใช้โปรแกรมออฟฟิศเวอร์ชันเดียวกัน หรือมีฟอนต์ที่ไม่ตรงกันนั่นเอง ดังนั้นการส่งออกไปเป็นภาพ จึงรับประกันได้ว่าเมื่อคนเอาไปเปิดหรือพิมพ์ต่อแล้ว การแสดงผลจะไม่ผิดเพี้ยนจากที่เราทำไปอย่างแน่นอน
8. Print Tuner พิมพ์ยังไงก็ถูกใจ โปรแกรมนี้จะจำลองตนเองเป็นเครื่องพิมพ์หลอกๆ หนึ่งเครื่อง เมื่อคุณสั่งพิมพ์งานออกที่ PrintTuner ตัวนี้ จะมีหน้าต่างหแสดงขึ้นมาให้คุณปรับแต่งงานพิมพ์ได้อย่างยืดหยุ่นได้อีกมาก เช่น ปรับขอบหน้ากระดาษ ย่อหรือขยายขนาดงานพิมพ์ สั่งพิมพ์หรือไม่พิมพ์หน้าใดๆ หรือให้พิมพ์ออกมาเป็นรูปภาพ ได้ถึง 24 ฟอร์แมต ความละเอียดของงานพิมพ์ หรือจะพิมพ์แบบประหยัดหมึกด้วยการ สั่งงานพิมพ์ให้มีตัวหนังสือสีดำให้หมด และสั่งไม่ให้พิมพ์เฉพาะภาพกราฟิก ก็ยังได้อีกด้วย
9. BookPrintXP พิมพ์เป็นเล่ม ประหยัดกว่าเยอะ โปรแกรมนี้จะช่วยให้คุณพิมพ์งานเอกสารเป็นหนังสือหรือที่เรียกว่า Booklet ได้ง่ายๆ โดยความสามารถของมันก็คือ สามารถสั่งพิมพ์ได้สูงสุด 16 หน้าย่อย ต่อ 1 หน้ากระดาษซึ่งหมายความว่า ถ้าพิมพ์ทั้ง 2 หน้ากระดาษ คุณจะได้หนังสือขนาด 32 หน้า เลยทีเดียว โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับนักศึกษาที่ต้องการพิมพ์เท็กซ์บุ๊กเล่มหนา แต่ไม่อยากใช้กระดาษเปลืองมากเกินไป
10. APFill – Ink Coverage Meter คำนวณหมึกให้แม่น โปรแกรมนี้จะช่วยคำนวณปริมาณหมึกพิมพ์ ต่อการพิมพ์ในแต่ละหน้า ว่าต้องใช้หมึกปริมาณเท่าไร ซึ่งทำให้สามารถวางแผนการพิมพ์ได้ว่า คุณจะพิมพ์หน้าใดก่อนหน้าใดไว้ทีหลัง ในกรณีที่ต้องการประหยัดปริมาณหมึกให้ใช้งานได้อย่างนานและคุ้มค่ามากที่สุด โปรแกรมนี้ยังสามารถคำนวณปริมาณหมึกพิมพ์สำหรับงานเอกสารและงานกราฟิกประเภท PostScript ได้ด้วย
11. SSC Service Utility ประหยัดสุดๆ สำหรับคนใช้เอปสัน ใครใช้เครื่องพิมพ์อิงก์เจ็ตของเอปสันคงทราบกันดีว่า ตลับหมึกเอปสันนั้นทุกครั้งที่พิมพ์จะมีการนับจำนวนหยดหมึกตลอดเวลา เมื่อนับถึงจำนวนหมึกที่กำหนด (หรือปริมาณหมึกเกือบจะหมด) เครื่องพิมพ์จะล็อกไม่ให้ตลับหมึกนั้นใช้งานได้ต่อไป ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ใครนำเอาตลับหมึกเก่าไปเติมหมึกมาใช้ใหม่นั่นเอง แต่ด้วยโปรแกรมนี้ คุณสามารถจะรีเซตเคาเตอร์ของตลับหมึกของเอปสันให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม
12. A+ Printer Monitor ใครพิมพ์มากสุด ยกมือขึ้น โปรแกรมตัวนี้ แนะนำให้ใช้ในออฟฟิศที่แชร์เครื่องพิมพ์ไว้พิมพ์ร่วมกันเลยครับ เพราะโปรแกรมนี้สามารถบันทึกการทำงานของเครื่องพิมพ์ทุกอย่าง ตั้งแต่ ใครเป็นคนสั่งพิมพ์สั่งเมื่อไร พิมพ์กี่หน้า พิมพ์จากโปรแกรมอะไร ฯลฯ เป็นต้น โปรแกรมนี้อาจไม่ได้ช่วยให้คุณประหยัดหมึกหรือกระดาษได้ แต่อย่างน้อยก็รู้ว่า ใครใช้หมึกกับกระดาษเปลืองทีสุดกันแน่
ทิปดี ๆ จาก หนังสือ PCTODAY

รวมทิปสำหรับเรื่องการพิมพ์

1. สั่งพิมพ์งานแบบด่วนจี๋แค่คลิกเมาส์ขวาที่ไฟล์ที่ต้องการจะพิมพ์ แล้วเลือก Print จากนั้นโปรแกรมหลักของไฟล์นั้นๆ ก็จะถูกเรียกขึ้นมาพร้อมกับสั่งพิมพ์งานให้ทันที เมื่อสั่งพิม์เสร็จแล้ว โปรแกรมก็จะปิดตัวเองไปอัตโนมัติ แต่ทั้งนี้แหละทั้งนั้น โปรแกรมหลักของไฟล์นั้นๆ จะต้องถูกติดตั้งพร้อมใช้งานอยู่ด้วยนะครับ ถึงจะใช้คำสั่งนี้ได้
2. เขย่าก่อนใช้ก่อนจะทำการเปลี่ยนตลับหมึก ที่จะใส่ลงไปบนเครื่องพรินเตอร์ สำหรับอิงก์เจ็ตแล้วต้องทำการเขย่าตลับหมึกก่อนเพื่อให้หมึกมารวมตัวกันก่อน เพื่อให้หัวพรินเตอร์ ทำการตรวจสอบหมึกภายในตลับได้ง่ายขึ้น
3. สั่งให้เรียงหน้าพิมพ์เองอิงก์เจ็ตส่วนใหญ่ จะไหลงานพิมพ์มาด้านหน้า ซึ่งเวลาสั่งพิมพ์งานหลายๆ หน้า เราต้องมาเรียงหน้าใหม่ทุกครั้งเพราะหน้าสุดท้ายจะมาอยู่ด้านบนเสมอ แต่เครื่องรุ่นใหม่ๆ จะมีฟังก์ชันนี้ Reverse Order ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่กำหนดให้การสั่งพิมพ์เริ่มต้นจากหน้าสุดท้ายมายังหน้าแรกครับ ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลามาเรียงหน้าใหม่อีกครั้ง
4. ควรใช้กระดาษให้เหมาะสมกับงานเช่น หากเป็นงานเอกสารธรรมดา แค่ใช้กระดาษที่วางขายทั่วไปก็พอ แต่หากคุณต้องพิมพ์งานที่ต้องการความปราณีต เช่น พิมพ์รูปภาพ กระดาษที่ใช้ก็ควรเป็นกระดาษแบบโฟโต้เนื่องจากจะทำให้หมึกไม่แตกเมื่อพิมพ์ลงไป และสามารถคงคุณภาพได้นานกว่ากระดาษทั่วไป ซึ่งจะจางลงภายในเวลาไม่นาน และเมื่อพิมพ์งานออกมาแล้วควรเก็บชิ้นงานให้มิดชิดหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนแสงแดดเพราะจะทำให้ซีดเร็ว
5. พิมพ์ภาพหน้าเดสก์ท็อปอย่างง่ายคุณเองก็สามารถจับภาพและพิมพ์หน้าจอที่มองเห็นจากมอนิเตอร์ได้เหมือนกับมืออาชีพ ด้วยฟังก์ชัน Print Screen ลองมองไปที่ปุ่มด้านบนๆ ของคีย์บอร์ด คุณจะเห็นปุ่ม Print Screen หรือ Prnt Scrn อยู่ เราจะใช้เจ้าปุ่มนี้แหละจับภาพหน้าจอ โดยเมื่อกดปุ่ม Print Screen ภาพหน้าจอของคุณจะถูกก๊อบปี้ไปไว้ใน คลิปบอร์ดชั่วคราว แต่ยังสั่งพิมพ์ไม่ได้จนกว่าคุณจะนำไป paste ในโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่ง สมมติว่าเราใช้ Paint โดยเมื่อ paste ลงใน Paint แล้วก็สามารถพิมพ์หน้าจอของคุณได้แล้ว แต่หากต้องการจับภาพเฉพาะหน้าต่างๆ บนสุด ก็ทำได้อย่างง่ายดายเช่นกัน โดยแค่กด Alt + Print Screen แล้วก็นำไป paste เหมือนเดิม
6. สั่งเก็บงานหากต้องการพิมพ์บ่อยๆ หากคุณต้องการพิมพ์งานชิ้นหนึ่งบ่อยๆ แต่กว่าจะทำได้ก็ต้องหาไฟล์ เปิดไฟล์ด้วยโปรแกรม แล้วจึงเข้าเมนู Print แล้วไหนจะต้องมาตั้งค่าอื่นๆ อีก ถ้าต้องทำบ่อยๆ ถ้าต้องทำบ่อยๆ คงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ๆ ดังนั้นมาใช้วิธีง่ายๆ ที่ผมจะบอกดีกว่า โดยไปที่ Printer Properties แล้วไปที่แท็ป Advanced แล้วเลือก Keep printed documents ไฟล์นั้นก็จะคงอยู่จนกว่าเราจะลบมันทิ้งไปเอง เวลาต้องการจะพิมพ์ซ้ำก็ให้ไปเข้าที่ Start >Printers and Faxes แล้วดับเบิ้ลคลิ้กเพื่อเข้าหน้าต่างของ Printer แล้วคลิ้กขวาที่ไฟล์ที่ต้องการจะพิมพ์ซึ่งควรจะมีอยู่แล้ว เลือก Restart หรือเพื่อความสะดวกให้สร้าง Shortcut ของ Printer ไว้โดยเข้าไปที่ Start > Printers and Faxes แล้วคลิ้กขวาที่ Printer แล้วเลือก create Shortcut ไว้ที่หน้าเดสก์ท็อป ก็จะสะดวกมากขึ้น
7. เพิ่มเครื่องพิมพ์เมนู Send Toวิธีสร้างชอร์ตคัตใน Send To ทำได้ง่ายๆ โดยเมื่อเราได้ชอร์ตคัตจากข้อที่แล้ว ก็ให้เอาชอร์ตคัตที่สร้างไปไว้ในโฟลเดอร์ชื่อ Send To สำหรับ Windows 9X จะอยู่ที่ C:\ Windows \ SendTo ส่วน Windows XP จะอยู่ที่ C:\Documents and Settings \ <ชื่อยูสเซอร์ของคุณ> \ SendTo แต่คุณอาจไม่เห็นเพราะมันจะถูกซ่อนอยู่ ก็ให้พิมพ์ชื่อ Send To ต่อท้ายไดเรกทอรีลงไปที่ช่อง Address เลยก็ได้
8. สร้างโปรไฟล์ไว้พิมพ์งานหลายๆ แบบในบางครั้งเราต้องพิมพ์งานหลายๆ รูปแบบ แต่ต้องมาคอยเปลี่ยนออปชันเวลาจะพิมพ์งานชิ้นหนึ่ง ก็ทำให้ยุ่งยากใช่มั้ยล่ะครับ วิธีแก้ง่ายๆ คือการสร้าง Profile ซึ่งโดยปกติแล้วซอฟต์แวร์เครื่องพิมพ์ มักจะมี options ให้เราสามารถเพิ่ม/ลด/แก้ไข Profile ได้ แต่หากเครื่องพิมพ์ของคุณไม่มีก็ไม่เป็นไรครับเรามาสร้าง Profile ด้วยตัวเองกันดีกว่า เริ่มจากไปที่ Start > Control Panel > Printer and Other Hardware > Add a Printer จะมีหน้าต่าง Add Printer Wizard ขึ้นมา ก็ให้กด next ไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าต่างที่มีคำว่า Name Your Printer ก็ให้ตั้งชื่อเป็น Profile ที่เราต้องการครับ (เช่น Color printer สำหรับพิมพ์งานสีอย่างเดียว เป็นต้น) พอเรา Add Printer ได้แล้วก็ให้คลิกขวาที่ Printer ที่เราเพิ่งจะเพิ่มไปสักครู่ แล้วไปที่ Printing Preferences… หรือไปที่ Properties > Printing Preferences ก็ได้ครับ แล้วก็ตั้งค่าได้ตามใจชอบเลยว่าอยากให้เครื่องพิมพ์ตัวนี้มีรูปแบบการพิมพ์ยังไง เสร็จแล้วก็กด Ok เป็นอันเรียบร้อยครับ จากนั้นก็เพิ่มเครื่องใหม่อีกเรื่อยๆ ตามความต้องการและงานที่อยากให้ทำ
9. ประโยชน์ของ Print to filePrint to File จะอยู่ในหน้าต่างที่เราตั้งค่าก่อนพิมพ์ครับ เมื่อเลือก Print to file แล้วงานของคุณจะถูกเก็บด้วยนามสกุล .prn ปกติเวลาพิมพ์งาน เครื่องพิมพ์จะสร้างไฟล์ .prn เสมอ เพียงแต่ไม่ได้สร้างให้เห็น และไม่ได้เก็บไว้ แล้ว .prn มีไว้ทำไม? คำตอบคือ มีไว้เก็บข้อมูลที่จะส่งไปให้เครื่องพิมพ์ ว่าเอกสารนี้ใช้ ฟอนต์อะไร มีกี่หน้า ตั้งค่าหน้ากระดาษอย่างไร ฯลฯ สรุปก็คือ เป็นสื่อกลางระหว่างพีซีกับเครื่องพิมพ์นั่นเอง ประโยชน์ของมันก็คือไฟล์ .prn นี้สามารถพิมพ์ได้ทันที โดยไม่ต้องเปิดโปรแกรม text editor เลย ดั้งนั้นหากพิมพ์จากไฟล์ .prn ไม่ว่าจากที่ใด ก็จะได้งานที่เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน แต่ปัญหาก็คือถ้าเปิดไฟล์ .prn ด้วย text editor ก็จะออกมาเป็นภาษาอะไรก็ไม่รู้ ดังนั้นการพิมพ์ไฟล์ .prn จึงต้องใช้โปรแกรมพิเศษ อย่าง MS Office Document Imaging ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดโปรแกรม MS Office นั่นเอง
10. ลองเปลี่ยนมาใช้หมึกทางเลือกดูบ้างถ้างานพิมพ์ของคุณไม่ได้เจาะจงว่าต้องสวยสด และสีต้องเที่ยงตรงเป๊ะๆ แล้วล่ะก็ ลองหันมาใช้หมึกทางเลือกอย่างพวก Refill หรือ Compatible ink ดู ก็เป็นตัวเลือกที่ประหยัดเงินในกระเป๋าคุณได้มาก เพราะหมึกเติมคุณภาพดีๆ นั้นอย่างไรก็มีราคาถูกกว่าหมึกแท้หลายเท่า เพียงแต่เพื่อความปลอดภัยของเครื่องพิมพ์ เรามีข้อแนะนำสำหรับการใช้หมึกเติมดังนี้* ลองปรึกษาหรือหาข้อมูลเกี่ยวกับการใชหมึกเติมเสียก่อน ก่อนที่จะพิจารณาเติมหมึกยี่ห้อใดๆ เพื่อดูว่าคนนิยมใช้หมึกเติมยี่ห้อใดมากที่สุดและมีปัญหาน้อยที่สุด* การเติมหมึกในแต่ละครั้ง ควรใช้ยี่ห้อเดียวกันไปจนกว่าจะเปลี่ยนตลับใหม่ เพราะเคมีของหมึกแต่ละยี่ห้อมักจะไม่เหมือนกัน การเติมหมึกคละยี่ห้อไปมา ในตลับเดิมๆ อาจทำให้เกิดปัญหากับหัวพิมพ์ได้* ลองเลือกเติมหมึกกับบริษัทที่มีการรับประกันน่าเชื่อถือ เช่น รับประกันความเสียหายของเครื่องพิมพ์ หรืองานพิมพ์เพราะอย่างน้อยคุณก็ยังมีคนรับภาระให้ ถ้าเกิดไปเติมหมึกมาแล้วมีปัญหากับเครื่องตามมา
ทิปดี ๆ จาก หนังสือ PCTODAY

ทำคอมเร็วง่ายๆ ด้วย Notepad

เวลาที่เรารันโปรแกรมหนักๆ หรือ หลายๆ โปรแกรม หน่วยความจำจะถูกกักเอาไว้ แต่เราสามารถปลดปล่อยหน่วยความจำให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดโดยการ เขียนคำสั่ง วิชวลเบสิค รันไทม์ (Visual Basic Runtime) แบบที่ท่านไส้อั่วบอกไว้วิฺธีนี้เหมาะมากสำหรับผู้ไม่้ต้องการดาวน์โหลดโปรแกรมเร่งหน่วยความจำให้รกเครื่อง
1. เปิด Notepad (Start, Run, "notepad" ).
2. แล้วพิมพ์คำสั่ง สำหรับคอมที่มีแรมน้อยกว่า 128 mb ลงไปใช้คำสั่งดังนี้Mystring = (16000000) สำหรับคอมที่มีแรมมากกว่า 128 mb ขึ้นไปใช้คำสั่งดังนี้Mystring = (80000000)เสร็จแล้วเซฟ วิธีการเซฟให้เป็นไฟล์ให้เป็น วิชวลเบสิค ให้ใส่เครื่องหมายคำพูดปิดหน้าหลังด้วยดังนี้จ้า"Memory.vbe" หรือ "Ram.vbe" ก็ได้
3. ทำการปิดโปรแกรมอย่างอื่นให้เรียบร้อยเสียก่อนเสร็จแล้วจึงสั่งรันไฟล์ Memory.vbe โดยดับเบิ้ลคลิก..เสร็จแล้วก็บูทเครื่องใหม่...

Windows XP Multi Core config

จากผลสำรวจนั้น ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ ไม่ได้ปรับแต่งเครื่องคอมพิวเตอร์ของบริษัทตนเอง ให้สามารถใช้งาน Dual Core ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นประสิทธิภาพที่ได้จากการทำงาน multitasking และ games จึงไม่สามารถแสดงถึงผลได้สูงสุดเพราะการตั้งค่าใน windows ที่ไม่ถูกต้อง การปรับแต่งนี้ อาจจะไม่เห็นผลมากนัก ถ้าคุณเป็นเพียงแค่คนเล่นคอมทั่วไป คือ ไม่ได้ใช้งานคอมพิวเตอร์หนักหนาสาหัสอะไร แต่ถ้าคุณเป็นกลุ่มที่ทำงาน multitask หรือ games ก็จะสามารถเห็นถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นมาได้ เช่น กลุ่มตัดต่อ Video,Audio เป็นต้นจ้ะ
สิ่งที่จำเป็น(ต้องเตรียม) 1.Windows XP (Home, Pro, MCE) Service Pack 2 (รวมถึง Apple Bootcamp ด้วย ไม่ใช่ Virtual PC) 2.ระบบทั้ง desktop หรือ notebook รวมถึง Apple's MacBook's ที่มี multi-cores, multi-processors, multi-logical processors (Hyper-Threading) - Intel: Pentium 4 w/ HT, Pentium D, Core Duo, Core 2 Duo, Dual Core Xeons อื่นๆ - AMD: Athlon 64 X2, Turion X2, Dual Core Opterons และอื่นๆ แล้วก็มาเริ่มกันได้เลย
ขั้นตอนที่ 1. สำหรับคนที่ใช้ CPU ของ Intel ให้ลองตรวจสอบดูว่าได้ลง Windows XP Hotfix Patch: KB896256 ไว้รึยัง (โดย Patch ตัวนี้ จะไม่ถูกดาวน์โหลดผ่าน automatically windows update จ้ะ) ถ้าไม่ได้ลงที สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี้จ้ะ KB896256 XP patch สำหรับคนที่ใช้ CPU ของ AMD ก็ให้ทำเหมือนกับคนที่ใช้ CPU ของ Intel จ้ะ เพียงแต่ต้องตรวจสอบอีกตัวคือ AMD CPU Driver ได้ลงไว้รึยัง(สำหรับ AMD Dual Core Optimizer ให้อ่านรายละเอียด 2) ถ้าไม่ได้ลงทีก็สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี้จ้ะ AMD CPU Driver รายละเอียด 1 สำหรับคนที่ใช้ CPU ของ AMD ให้ลง AMD CPU Driver รายละเอียด 2 AMD Dual-Core Optimizer เป็นตัวที่ AMD เป็นคนออกเอง จริงๆแล้วการที่จะได้เจ้าตัวนี้มาจำเป็นต้อง E-mail ไปหา Microsoft AMD จึงออกตัวปรับแต่งเองสำหรับบุคคลทั่วไป ที่ใช้ CPU ของ AMD ถ้าคุณลง AMD Dual-Core Optimizer แล้วสามารถทำงานได้อย่างไม่มีปัญหา ก็ไม่ควรที่จะลง Win XP Hotfix เพราะอาจเกิด Blue Screen ได้ และถ้าเป็นเจ้าของ notebook Clevo D900K Sager 9750, Alienware Aurora m7700 และ notebook บางเจ้า ก็ไม่ควรลง AMD Dual-Core Optimizer ส่วนถ้าเกิดขึ้นแล้ว ก็ให้เข้า Safe Mode ไปลบออกได้จ้ะ
ขั้นตอนที่ 2. กว่าจะมาถึงขั้นตอนที่ 2 ก็เหนื่อยเลย มาต่อกันเลยจ้ะ ให้คลิก Start Menu > Run พิมพ์ REGEDIT แล้วกด enter ตำแหน่งของ Registry จะอยู่ที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Control\Session Manager โดยจะเห็นคำว่า Throttle อยู่จ้ะ ถ้าไม่มีก็สร้างขึ้นมาเองซะเลยจ้ะ โดยการ คลิกขวา New > Key แล้วตั้งชื่อว่า Throttle
ขั้นตอนที่ 3. ในขั้นตอนนี้ก็ยังคงอยู่ใน Registry เช่นเดิมนะ ใน Throttle ให้ควรมี DWORD ชื่อ PerfEnablePackageIdle โดยตั้งค่า Value ไว้ 1 ถ้าไม่มีก็เหมือนเดิมจ้ะ สร้างขึ้นมาเองเลย โดยคลิกขวา New > DWORD แล้วตั้งชื่อ PerfEnablePackageIdle รายละเอียด ที่ตั้งไว้เท่ากับ 1 หมายถึงเปิดใช้งานจ้ะ คือเพิ่มประสิทธิภาพนั้นเอง
ขั้นตอนที่ 4. ออกมาจากการแก้ไข Registry จ้ะ
ขั้นตอนที่ 5. คราวนี้ให้มาดูกันที่ boot.ini จ้ะ ให้ดูว่ามี /usepmtimer อยู่รึเปล่า วิธีการดูก็ ให้คลิกขวาที่ My Computer แล้วเลือก Properties แล้วก็ไปที่แท็ป Advance ให้ดูที่ Startup and Recovery แล้วให้คลิก Settings แล้วคลิกที่ Edit แล้วลองตรวจสอบดูจ้ะ ว่ามี /usepmtimer อยู่ในบรรทัดสุดท้ายรึเปล่า ถ้าไม่มีก็จัดการเพิ่มเองเลยจ้ะ (อีกแล้ว) โดยการ Copy ไป Paste ไว้ รายละเอียด สำหรับคนที่ใช้ CPU ของ AMD และลง AMD CPU Driver แล้ว /usepmtimer ก็จะถูกเพิ่มเข้าไปโดยเรียบร้อยแล้วจ้ะ ตัวอย่าง boot.ini CODE[boot loader] timeout=30 default=multi(0)disk(0)rdisk(0)partition(1)\WINDOWS [operating systems] multi(0)disk(0)rdisk(0)partition(1)\WINDOWS="Microsoft Windows XP Professional" /noexecute=optin /fastdetect /usepmtimer แล้วกด File แล้ว Save แล้วก็ Restart เครื่องเลย รายละเอียด boot.ini ที่ยกตัวอย่างข้างบนนั้น ไม่แนะนำให้ Copy ทั้งหมดนะ เพราะอาจจะไม่เหมือนกันได้ นอกเสียแต่ว่าจะใช้ Windows XP SP2 ใน drive แรก แนะนำให้ Copy /usepmtimer เท่านั้น หมายเหตุ แหล่งที่มา : ทิปนี้ผมจำไม่ได้ว่าไปเจอที่ไหนแต่เห็นเยอะอยู่ใน Google ครับต้องขอขอบพระคุณท่านผู้เขียนจริงๆ ไว้ด้วยครับ

ดูแลวินโดว์ให้ใหม่อยู่เสมอด้วย WindowsCare

คิดว่าคงมีหลายๆคนที่เจอปัญหาคอมฯบู๊ทเครื่องช้า สาเหตุส่วนหนึ่งคาดว่าน่าจะมาจากพวกไฟล์ขยะ ไฟล์เออเร่อ ฯลฯ เป็นต้น ได้ไปเจอตัวนี้มาเลยลองนำมาให้ดูกันครับ
จะขอเสนอโปรแกรมที่มีชื่อว่า Advanced WindowsCare เป็นโปรแกรมที่จะช่วยจัดการไฟล์ที่ไม่ต้องการของวินโดว์ เช่น พวกไฟล์ขยะ ไฟล์เออเร่อต่างๆ ฯลฯ และยังทำงานในส่วนอื่นๆ ได้อีกเยอะ มาเริ่มกันเลยนะครับ
คลิ๊กปุ่ม Start เลยครับแล้วก็เลือกส่วนที่จะทำการสแกนหาไฟล์ขยะครับ พอสแกนเสร็จก็จัดการแก้ไขข้อบกพร่องของวินโดว์ไปซะ โดยเลือกที่ปุ่ม Repair ครับ
ต่อมาในส่วนต่อไปคลิ๊กที่ Tools-->Startup Manager แล้วเลือกดูโปรแกรมไหนที่ไม่ต้องการให้รันพร้อมตอนเปิดวินโดว์ครับจะทำให้บูทเร็วขึ้น
ต่อมาคลิ๊ก Tools-->Registry Cleaner ครับ แล้วก็คลิ๊ก Scan Registry พอสแกนเสร็จคลิ๊ก Repair อย่างเร็วเลยครับ
ต่อเลยครับคลิ๊ก Tools-->Add Ons แล้วเลือกที่ System Service ครับ ตัวนี้สำคัญเลยครับเลือกดูว่ามี Service ตัวไหนที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ก็คลิ๊กขวาแล้วเลือก Disabled หรือ Manual ก็ได้ครับ จะลดการใช้ทรัพยากรของเครื่องไปได้เยอะเลย
ตัวสุดท้ายคลิ๊ก Tools-->SmartRAM ครับตัวนี้จะทำการเรียกคืนแรมที่ถูกโปรแกรมอื่นใช้ไปแล้วขี้เหนียวไม่ยอมปล่อยกลับมาให้ระบบคืนครับ โหลดไปโปรแกรมเดียวใช้งานได้ครอบคลุมหลายส่วนเลยใช่ไม๊ล่ะครับ แล้วลองดูว่าคอมพิวเตอร์ของคุณจะเร็วขึ้นบ้างไม๊...

จุดเริ่มต้น

เรื่องมันเริ่มมาจากตัวผม ปกติเป็นคนที่ชอบใช้คอมพิวเตอร์อยู่แล้วแต่เนื่องจากเมื่อก่อนตัวผมมีสถานะทางการเงินที่ไม่สู้ดีนัก จึงได้แต่อาศัยใช้คอมฯของที่ทำงานบ้าง บ้านเพื่อนบ้าง ร้านเน็ตบ้าง มาตลอด จนมาถึงวันที่ผมรู้สึกว่ามันจำเป็นต้องมีเพราะปัจจุบันการใช้คอมฯเหมือนกลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมยุคนี้ไปแล้ว จึงรวบรวมเงินที่มีไม่พอก็ยืมที่บ้านบ้าง จนได้คอมฯรุ่นธรรมดาๆมาเครื่องนึง แต่ก็ดีใจนะที่ได้มีเป็นของตัวเองซะที แต่เนื่องจากตัวผมเองก็ไม่ค่อยเก่งคอมฯซักเท่าไหร่ ภาษาอังกฤษก็งูๆปลาๆ จะว่าไปผมเองก็ใช้คอมฯไม่ค่อยเป็นได้แค่พื้นฐานธรรมดาๆเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องศึกษาหาวิธีการใช้คอมฯอยู่เรื่อยๆ เพื่อที่จะสามารถใช้คอมฯให้ได้ประโยชน์สูงสุด ส่วนทิปที่จะนำมาเผยแพร่นั้นก็ได้มาจากหนังสือบ้าง ในเน็ตบ้าง มีคนบอกมาบ้าง ก็ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ ส่วนท่านที่แวะเข้าดูมีความคิดเห็น หรือ ข้อเสนอแนะก็แนะนำกันบ้างนะครับ แล้วผมก็จะศึกษาหาความรู้มาบอกเล่ากันต่อๆไปเรื่อยๆนะครับ ขอบคุณครับ